หมวดหมู่: กสทช.

1327 NBTC


กสทช. หารือ ตำรวจ และ ปปง. เร่งรัดระบบลงทะเบียนซิมด้วยไบโอเมตริกซ์ และ Set Zero การส่ง SMS แนบลิงก์ พร้อมออกมาตรการสำคัญสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์

          เมื่อวันที่ 17 ม.ค.68 เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ, พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผอ. ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ไตรร งค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง., พร้อมด้วย ผู้แทน สกมช., สมาคมธนาคาร, ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการฯ เพื่อพิจารณาออกมาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนี้

          1.นำระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) มาใช้ในการลงทะเบียนซิมการ์ด เพื่อคัดกรองและลดการปลอมแปลงข้อมูล

          2.จำกัดการลงทะเบียนซิมชาวต่างชาติได้ไม่เกินสามซิม/คน/ค่าย และให้ใช้ passport ลงทะเบียนเท่านั้น

          3.Set Zero ระบบ SMS แนบลิงก์ ให้ผู้ประกอบการทุกรายลงทะเบียนใหม่ และส่งลิงก์มาให้ตรวจก่อนส่ง เริ่มวันที่ 1 ก.พ 68

          นอกจากนั้น ยังได้หารือมาตรการเสริมอื่นๆ เช่น กำหนดให้แสดงชื่อผู้โทรเข้าแทนเลขหมาย (Caller ID) และ การกำหนดให้ระบบ Mobile Banking ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากซิมการ์ดเท่านั้น เมื่อต้องการโอนเงินจำนวนมากๆ มาตรการเหล่านี้จะทำให้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

          พล.ต.อ.ณัฐธรฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ กสทช. ร่วมกับ ตำรวจ ตรวจยึด Simbox และ ซิมการ์ดจำนวนมาก เมื่อทำการตรวจสอบพบว่าซิมการ์ดเหล่านี้ส่วนใหญ่ลงทะเบียนโดยคนต่างชาติ ด้วยเอกสารแสดงตนปลอม หรือใช้ภาพบุคคลอื่น ในที่ประชุมวันนี้ได้หารือเพื่อเสนอออกประกาศ กสทช. ให้ใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) หรือข้อมูลชีวภาพ และจำกัดการลงทะเบียนซิมของแรงงานสามสัญชาติได้ไม่เกินสามซิม/คน/ค่าย โดยต้องใช้ passport ลงทะเบียนเท่านั้น รวมทั้ง Set Zero ระบบการส่ง SMS แนบลิงก์ โดยให้ผู้ประกอบการทั้งหมดลงทะเบียนใหม่และส่งลิงก์ให้ตรวจสอบก่อนส่ง

          นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือมาตรการสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สำคัญอื่นๆ อาทิ การแสดงชื่อผู้โทรเข้า และการใช้เน็ตจากซิมในการโอนเงินจำนวนมากๆ มาตรการเหล่านี้จะทำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทำงานได้ง่ายขึ้น ขณะที่กลุ่มมิจฉาชีพก็จะก่ออาชญากรรมลำบาก

          พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอมาตรการ Caller ID ระบบจะแสดงชื่อผู้โทรเข้า เพื่อให้ผู้รับสายปลายทางทราบ ซึ่งจะทำให้มิจฉาชีพโทรหลอกลวงประชาชนได้ยากขึ้น โดยได้หารือผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ถึงแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม ในส่วนของการปราบปรามซิมผีนั้น ตนได้สั่งการไปยังหน่วยในสังกัด ตร. ให้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ กสทช. ในการกวดขันจับกุมดีลเลอร์ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบในการลงทะเบียนซิมการ์ด เพื่อปิดช่องโหว่ในการลงทะเบียนซิมการ์ดอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตาม พรก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ มาตรา 9 และ 11 มีทั้งโทษทั้งจำคุกและโทษปรับ 

          อนึ่ง การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กสทช., ปปง., และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนี้ เป็นการขานรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และป้องกันปัญหาเพื่อมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวงทางออนไลน์

          พล.ต.ต. เอกรักษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง ปปง. ได้เสนอมาตรการ Mobile Banking โดยกำหนดให้การโอนเงินจำนวนมากๆ เช่น จำนวน 50,000 บาทขึ้นไป ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากซิมการ์ด โดยจะต้องทำควบคู่กับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ซึ่งจะทำให้การโอนเงินของกลุ่มมิจฉาชีพทำงานได้ยากขึ้น

 

 

1327

Click Donate Support Web 

MTI 720x100

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!