‘โรแยล พลัส’ จับมือ 5 หน่วยงาน เสริมแกร่งการเรียนรู้และอาชีพ พร้อมพัฒนาอาชีพเชื่อมโยงนิเวศท้องถิ่น
บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เดินหน้าสนับสนุนโครงการ “ส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน” แปร “เศษเป็นศิลป์” สร้างคุณค่าให้ชุมชนครอบคลุมพื้นที่ภาคกลาง ตะวันตก และตะวันออก โดยมุ่งเน้นการสร้างอาชีพที่มั่นคงและต่อยอดได้จริง
นายกิตติ วชิรจิรากร รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกด (มหาชน) หรือ PLUS กล่าวว่า เราเชื่อว่าการศึกษาคือรากฐานของความเท่าเทียม และการสร้างโอกาสให้เด็กพิเศษและครอบครัวเปราะบางสามารถพัฒนาทักษะและอาชีพที่เชื่อมโยงกับนิเวศท้องถิ่น จะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โครงการนี้เป็นการต่อยอดจากการดำเนินงานของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่เน้น การใช้ชุมชนเป็นฐานในการเรียนรู้ ผสานความร่วมมือจากเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับผู้เรียนและครอบครัว ขับเคลื่อนโอกาสทางการศึกษา สร้างความเท่าเทียมในสังคม
“การสนับสนุนของ PLUS ในโครงการนี้ ไม่ได้จำกัดแค่การมอบเงินทุน แต่เน้นการสร้าง โครงสร้างพื้นฐานทางอาชีพที่สามารถต่อยอดได้ในระยะยาว การดำเนินโครงการเน้นแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งเน้นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเสียและการสร้างขยะในกระบวนการผลิต การนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและลดการใช้ทรัพยากรจากภายนอก โดยให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมที่มีคุณภาพ การพัฒนาทักษะที่สามารถใช้ได้จริง และการสนับสนุนให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน รวมถึงต่อยอดไปสู่การสร้างธุรกิจขนาดเล็กที่พึ่งพาตนเองได้
ด้วยแนวทางนี้ PLUS เชื่อว่าโครงการจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม สร้างโอกาสให้เด็กพิเศษและครอบครัวเปราะบาง มีอาชีพที่ยั่งยืน และสามารถเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างแท้จริง” นายกิตติกล่าว
โรแยล พลัส จับมือกับ 5 หน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญในการบูรณาการองค์ความรู้และทรัพยากรเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ดังนี้
1. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ผู้ดำเนินการหลักของโครงการ โดยสนับสนุนงบประมาณและดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้โครงการบรรลุตามวัตถุประสงค์
2. บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) สนับสนุนงบประมาณและทรัพยากร สำหรับการพัฒนา หน่วยการเรียนรู้และโครงสร้างพื้นฐานด้านอาชีพ โดยมุ่งเน้นให้เด็กพิเศษและครอบครัวเปราะบางสามารถเข้าถึงการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะทางอาชีพที่สอดคล้องกับนิเวศท้องถิ่น เพื่อสร้างโอกาสในการมีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน
3. บริษัท ข้าวใหม่ปลามัน อัมพวา จำกัด เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เน้นให้เกิดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทำงานจริง ทั้งในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
4. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ โดยผ่านศูนย์ออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากกระบวนการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมาย
5. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมสังคม นำความรู้ทางการเกษตรและเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าและสร้างอาชีพที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน
6. ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น จังหวัดสมุทรสงคราม ผู้ประสานงานการวิจัยผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบนิเวศท้องถิ่น เพื่อจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนผ่านงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น
เป้าหมายของการผนึกกำลังของทั้ง 6 หน่วยงาน ทำให้โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการให้โอกาสทางการศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้าง “Ecosystem แห่งการเรียนรู้และอาชีพ” ที่สามารถต่อยอดและขยายผลได้จริงในระดับชุมชน ซึ่งจะช่วยให้เด็กพิเศษและครอบครัวเปราะบางสามารถพัฒนาตนเอง มีอาชีพที่มั่นคง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
“โรแยล พลัส มองว่าโครงการนี้เป็นเพียงก้าวแรก โดยมีแผนติดตามผลและต่อยอดแนวทางการดำเนินงานไปยังพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต เพื่อส่งเสริมการศึกษาที่เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมและสร้างโอกาสให้กับทุกคนอย่างยั่งยืน” นายกิตติกล่าวทิ้งท้าย
3433