ทรูแนะเคล็ดไม่ลับ...เรื่องโมบายแบงก์กิ้ง เพื่อให้ทุกคนสบายใจและปลอดภัยในการใช้งาน
ปัจจุบันการทำธุรกรรมผ่าน โมบายแบงก์กิ้ง กลายเป็นทางเลือกหลักในการโอนเงิน จ่ายบิล และทำธุรกรรมต่างๆ แต่เพื่อป้องกัน ซิมผี บัญชีม้า และภัยไซเบอร์ ภาครัฐจึงได้ออกมาตรการยกระดับความปลอดภัยการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ กำหนดให้ชื่อผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งต้องตรงกับชื่อเจ้าของซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งมาตรการนี้ทำให้หลายคนตกใจและสงสัยว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และต้องทำทุกคนหรือไม่? วันนี้ ทรูพร้อมแนะเคล็ดไม่ลับ! เพื่อให้ทุกคนสบายใจและปลอดภัยในการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ได้ต่อเนื่อง
1. ถ้าไม่ได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องไปทรูช้อป ไม่ต้องไปธนาคาร ยังสามารถใช้งานโมบายแบงก์กิ้งได้ตามปกติ
2. การแจ้งเตือนของธนาคาร ไม่ใช่เป็นการส่งข้อความ SMS แต่เป็นการส่งข้อความเตือนผ่านแอปพลิเคชันธนาคารที่ใช้บริการ (เป็นpush notifications)
3. หากได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับการยกเว้น และกลุ่มที่ไม่ได้รับการยกเว้น
4. กลุ่มที่ได้รับการยกเว้น (คือชื่อผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ไม่ต้องตรงกับชื่อเจ้าของซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้) มี 3 กลุ่มคือ 1. บุคคลในครอบครัวเดียวกัน 2. ผู้ที่ต้องได้รับการดูแลตามกฏหมาย 3. นิติบุคคล
โดย 2 กลุ่มแรก สามารถติดต่อสาขาธนาคารที่สะดวก ภายใน 30 เมษายน 2568 เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน พร้อมเตรียมเอกสารตามที่ธนาคารกำหนด ดังนี้
- บุคคลในครอบครัว : เอกสารที่แสดงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาสูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนสมรส และใบเสร็จค่าโทรศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์
- ผู้ที่ต้องได้รับการดูแลตามกฏหมาย : คำสั่งศาลแต่งตั้งผู้อนุบาล, ผู้พิทักษ์, บัตรผู้พิการ หรือเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้
5. สำหรับนิติบุคคล สามารถดำเนินการได้ 2 แนวทาง
- ยื่นแบบฟอร์มยืนยันเลขหมายจดทะเบียน พร้อมลายเซ็นกรรมการผู้มีอำนาจ และตราประทับบริษัท โดยให้ทรูอัปเดตข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ออกหนังสือรับรองสำหรับธนาคาร โดยระบุชื่อพนักงาน เลขหมายโทรศัพท์ และอนุญาตให้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ตามข้อกำหนดของธนาคาร เพื่อนำไปยื่นที่สาขาธนาคาร
ดูรายละเอียดและดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ https://truebusiness.truecorp.co.th/th/home
6. กลุ่มที่ได้รับการแจ้งเตือนและไม่ได้รับการยกเว้น สามารถอัปเดตชื่อจดทะเบียนให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ได้ที่ทรูช้อป (ไม่มีค่าบริการ) ภายใน 30 เมษายน 2568 ถ้าไม่ดำเนินการตามกำหนด ธนาคารอาจระงับบริการโมบายแบงก์กิ้ง
7. การอัปเดตชื่อจดทะเบียนให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ทั้งลูกค้าระบบรายเดือนและเติมเงิน ต้องเตรียมบัตรประชาชนตัวจริง และซิมการ์ดตัวจริง โดยผู้จดทะเบียนซิมเดิมและใหม่ ต้องแสดงบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมซิมการ์ดเลขหมายที่ต้องการเปลี่ยนชื่อผู้ใช้บริการ ติดต่อทำรายการโอนเปลี่ยนเจ้าของได้ที่ ทรูช้อป
8. หากลูกค้าได้รับการแจ้งเตือนและผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งอยู่ต่างประเทศ ซึ่งต้องการอัปเดตชื่อ จดทะเบียนซิม สามารถทำได้โดยให้ผู้อยู่ในประเทศไทยนำเอกสารของผู้จดทะเบียนซิมและผู้รับโอนไปดำเนินการที่ ทรูช้อป เพื่อยืนยันตัวตนพร้อมกันทั้งคู่ผ่าน VDO Call
9. หากผู้ที่ได้รับการแจ้งเตือน ไม่ดำเนินการแก้ไขชื่อผู้จดทะเบียนให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ภายในเวลาที่ภาครัฐกำหนดคือ 30 เมษายน 2568 ลูกค้าก็จะยังสามารถใช้บริการโทรศัพท์ทั้งโทรและเน็ตได้ตามปกติตลอดไป แต่ภายหลังจากวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 จะไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้งได้
10. ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของตัวเองและดำเนินการตามได้ง่ายๆ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่คอลเซ็นเตอร์ ทรู 1242 หรือดีแทค 1678