หมวดหมู่: บลจ.

DBS1H25


DBS ประเมินนโยบายทรัมป์จุดชนวน เกมเปลี่ยน`ครั้งใหญ่``DBS 1H25 CIO Market Outlook-GAME CHANGERS` จุดชนวนสงครามการค้าครั้งใหญ่ และความตึงเครียด

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เชิCIO (Chief Investment Office, DBS Bank) มาให้ข้อมูล `DBS 1H25 CIO Market Outlook-GAME CHANGERS`ประเมินรัฐบาลทรัมป์ จุดชนวนสงครามการค้าครั้งใหญ่ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นนปี 2025 เพิ่มความเสี่ยงการลงทุนทั่วโลกมากขึ้น แนะจัดสรรพอร์ตลงทุนแบบ บาร์เบล (Barbell Strategy) โดยเน้นลงทุนเสี่ยงสูงเกาะกระแสนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์

และลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อปกป้องพอร์ตที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ พร้อมปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นสหรัฐ เชื่อได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ลดน้ำหนักหุ้นยุโรป ขณะที่พันธบัตรและทองคำเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย

นายเอ็ดวิน ตัน (Mr. Edwin Tan) Market Head DBS, Thailand & Philippines, DBS Bank กล่าวในงาน DBS 1H25 CIO Market Outlook ว่าเริ่มต้นปี 2568 มีการคาดการณ์ถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับปานกลางแต่มีเสถียรภาพในหลายภูมิภาคทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงเผชิญกับปัจจัยพลิกเกมที่อาจกำหนดทิศทางในช่วงเดือนข้างหน้า

ด้านหนึ่ง การกลับมาดำรงตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งสัญญาณถึงสงครามการค้าระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยมาตรการทางภาษี และยิ่งซ้ำเติมความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ดำเนินอยู่ ในอีกด้านหนึ่ง แนวโน้มการลดภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมสำคัญต่างๆ ประกอบกับวัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงดำเนินต่อไป อาจเป็นปัจจัยเสริมให้ตลาดและเศรษฐกิจเติบโตได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นว่า เกมเปลี่ยน (Game Changers)` เป็นธีมที่เหมาะสมสำหรับการแถลงแนวโน้มตลาดครั้งแรกของปีนี้

คำแนะนำสำคัญที่ทีม CIO ให้ไว้เมื่อปีที่ผ่านมา เริ่มจากการแนะนำให้ลูกค้าลงทุนใน I.D.E.A. companies-Innovators, Disruptors, Enablers, Adapters แม้ว่าหลายฝ่ายจะกังวลว่าการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอาจซ้ำรอยฟองสบู่ดอทคอมในปี 2000 ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ คำแนะนำให้ Overweight ในตราสารหนี้ที่มีเครดิตดียังคงให้ผลตอบแทนที่ดี แม้ว่าสัญญาณของเฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นจากการกลับมาของทรัมป์ ตั้งแต่ต้นปี เราแนะนำให้ลูกค้าใช้กลยุทธ์ Liquid+ โดยให้ความสำคัญกับตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนระยะสั้นที่มีคุณภาพสูงเป็นทางเลือกแทนเงินสด

DBS 1H25

นอกจากนี้ แนวโน้มตลาดทองคำที่เราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปียังเป็นไปตามที่คาด โดยทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่ทำผลตอบแทนได้ดีที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา

คำแนะนำที่ดูแตกต่างไปจากกระแสของทาง DBS ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงผลตอบแทนที่น่าพอใจสำหรับลูกค้าที่เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ด้านการลงทุนของเรา แม้ว่าความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยยังคงมีอยู่ แต่กลยุทธ์ Barbell ของเรา อยู่ในกลุ่ม Top 5% ของกองทุนแบบ Balanced Funds ทั่วโลกกว่า 200 กองทุน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 5 ปีก่อน และให้ผลตอบแทนสุทธิ 12% ในปี 2567

สำหรับ ธุรกิจไพรเวทแบงก์ของ DBS ในประเทศไทย จากการพบปะสื่อเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการวางเป้าหมายการเติบโต AUM ที่ 1 แสนล้านบาทภายในปี 2569 โดย ณ เดือนธันวาคม 2567 AUM ได้เติบโตเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 35% นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวน Relationship Managers (RM) เป็นสองเท่า ซึ่งปัจจุบัน ได้เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 20%

และอุตสาหกรรมบริหารความมั่งคั่งของประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้ความต้องการด้านการวางแผนความมั่งคั่ง (Wealth Planning), การกระจายการลงทุน (Investment Diversification) และการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ (International Banking) เพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน การแข่งขันในตลาดไพรเวทแบงก์ก็ทวีความเข้มข้นขึ้น

ซึ่งส่งผลดีต่อลูกค้า DBS มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าผู้ลงทุนรายใหญ่ (HNW) และรายใหญ่พิเศษ (UHNW) ผ่านบริการ "One-Stop" ด้วยข้อเสนอบริการแบบครบวงจรทั้งในประเทศ และต่างประเทศเป็นรายแรกในตลาด ซึ่งได้มอบประสบการณ์การทำธุรกรรมที่ไร้รอยต่อระหว่างบัญชีในประเทศและต่างประเทศผ่านจุดให้บริการเดียว และยังสามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าผ่านโมเดล One Bank`ที่เป็นเอกสิทธิ์ของดีบีเอส ปัจจุบันมีการระดมทุนสองดีลที่กำลังดำเนินการอยู่ และอีกสองดีลอยู่ระหว่างรอดำเนินการ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และโอกาสที่น่าสนใจที่มีต่อลูกค้า

DBS1H25 นายเวย์ ฟุก โหว (Mr. Wey Fook Hou) Chief Investment Office, DBS Bank กล่าวว่าในปี 2025 สภาพภูมิรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจโลกยังคงมีความซับซ้อน และละเอียดอ่อนอย่างที่เป็นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้ารับตำแหน่งในวาระที่สองของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดการลงทุน และสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

และด้วยชัยชนะของพรรครีพับลิกันทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ทำให้การบริหารงานของทรัมป์จะมีอำนาจเต็มที่ในการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ และความมั่นคงทางชายแดน ซึ่งจากนโยบายต่างๆ ที่กล่าวมา ทำให้แนวโน้มที่คาดว่าจะเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจไม่เกิดขึ้น

ในทางกลับกัน เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ทรัมป์มุ่งมั่นทำตามคำมั่นสัญญาด้านนโยบาย เช่น การลดภาษีและการใช้จ่ายภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนจากนโยบายทรัมป์ 2.0 โดยเฉพาะความยั่งยืนทางการคลัง และการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ที่กระตุ้นให้เกิดสงครามทางการค้า ท่ามกลางความย้อนแย้งของนโยบายการคลังที่ขยายตัว และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น

DBS เชื่อว่าการใช้กลยุทธ์การจัดสรรพอร์ตแบบ `บาร์เบล` (Barbell Strategy) จะเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการสร้างพอร์ตการลงทุน ซึ่งจะช่วยกระจายการลงทุนในสองส่วนได้แก่ (1) การลงทุนในภาคส่วนที่มีความผันผวนสูง (High Beta Sectors) เพื่อเกาะกระแสนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ และ (2) การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง (Defensive Assets) เพื่อลดความเสี่ยง และปกป้องพอร์ตจากผลกระทบทางลบที่อาจจะเกิดขึ้นจากนโยบายของทรัมป์

นายเวย์ ฟุก โหว กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนโยบายการขยายตัวภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ ทาง DBS แนะนำให้ปรับสถานะการลงทุนในหุ้นทั่วโลกจาก`Underweight` เป็น Neutral อย่างไรก็ตาม เรายังคงให้คงน้ำหนักในหุ้นสหรัฐฯในระดับ `Overweight` เนื่องจากนโยบายการลดภาษีจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรของบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ DBS ยังคงมีความเชื่อมั่นบริษัทเหล่านี้ เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว และมีค่าเบต้าสูงถึง 1.4 เท่าของตลาดหุ้นโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนที่ดีจากนโยบายการลดภาษี และการผ่อนคลายกฎระเบียบ

เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า ทาง DBS จึงให้น้ำหนักลงทุน “Overweight” ในตราสารหนี้ (Fixed Income) เนื่องจากช่วยป้องกันความเสี่ยงขาลง หากความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรงขึ้นโดยผลตอบแทนจากพันธบัตรในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจโดยเฉพาะเมื่อพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี มีอัตราผลตอบแทนที่กลับมาระดับ 4.4% ต่อปี

ในส่วนของการลงทุนหุ้นยุโรปทาง DBS ให้น้ำหนักการลงทุนในระดับ Underweight เนื่องจากคาดว่าหุ้นยุโรปจะให้ผลตอบแทนที่ด้อยกว่าหุ้นสหรัฐฯ จากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกจีนต้องเปลี่ยนเส้นทางการค้าของตนไปยังตลาดที่ไม่ใช่สหรัฐฯยังผลให้การแข่งขันในตลาดการค้านอกสหรัฐฯจะรุนแรงขึ้น

นอกจากผลกระทบเชิงนโนบายต่างๆ ที่จะเกิดในสภาคองเกรสแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดในระยะยาว DBS คาดว่ามูลค่าของสินทรัพย์เสี่ยงในปี 2025 จะได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยต่อไปนี้

 

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เข้าสู่การเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจะช่วยลดผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถรักษาอัตรากำไรได้ดี ความมั่งคั่งสุทธิของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น และหนี้สินของครัวเรือนอยู่ในระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 71% ของ GDP สหรัฐฯ ช่วยสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศให้แข็งแกร่ง

ความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยขับเคลื่อนการเพิ่มผลิตภาพการทำงานอย่างมีนัยสำคัญ

จุดเด่นของการลงทุนสำหรับไตรมาสนี้ ได้แก่ การลงทุนในสินทรัพย์ผสม– พันธบัตรยังคงน่าสนใจ

จากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของดัชนี ISM Services แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้อยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง อย่างไรก็ตามการขึ้นภาษีนำเข้าภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดใหม่ อาจทำให้เฟดต้องกลับมาดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนจากหุ้นและพันธบัตรรัฐบาล (Earning yield gap) ที่อยู่ในเกณฑ์ติดลบ เป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เรามองว่าการลงทุนในตราสารหนี้มีความน่าสนใจมากกว่าตราสารทุน

หุ้น-สหรัฐฯ ยังคงโดดเด่นต่อเนื่อง คาดการณ์ผลตอบแทนในตลาดสหรัฐฯที่สูงกว่าตลาดยุโรป คาดว่าการเติบโตที่เหนือกว่าของสหรัฐฯ จะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากการลดภาษีที่กำลังจะเกิดขึ้น

รวมถึงการสนับสนุนจากนโยบายการคลัง และการเงิน ในขณะที่การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มที่จะเติบโตลดลงจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากจีนส่งออกไปยังยุโรปมากขึ้น แม้จะมีอุปสรรคจากภาษีการค้า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้น แต่ DBS ยังคงคำแนะนำให้ลงทุนในตลาดเอเชียนอกญี่ปุ่น (Asia ex-Japan) เนื่องจากราคาหุ้นในตลาดนี้ถูกกว่าตลาดที่พัฒนาแล้ว 34% ในกลุ่ม Asia ex-Japan คาดว่า ประเทศในอาเซียนจะได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากการกระจายห่วงโซ่อุปทานของจีน ภายใต้กลยุทธ์ China+1

พันธบัตร-การจัดการความเสี่ยงจากนโยบายขยายตัวและภัยคุกคามจากภาษี ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า และนโยบายการขยายตัวภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์บ่งชี้ได้ว่าผลตอบแทนของพันธบัตรและตราสารหนี้ได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อ จากข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่าส่วนชดเชยความเสี่ยงของตราสารหนี้เอกชนยังคงอยู่ในระดับคงที่หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกันเป็นเวลา 1 ปี กลยุทธ์ของทาง DBS ยังคงใช้การลงทุนแบบ `บาร์เบล` โดยเน้นตราสารหนี้หรือพันธบัตรอายุ 2-3 ปี และ 7-10 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มเรตติ้งระดับ A/BBB ที่มีแนวโน้มเชิงบวกจากเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องในกลุ่มตราสารหนี้ระดับ investment grade

 

สินทรัพย์ทางเลือก-ทองคำยังคงได้รับความนิยมแม้จะมีความท้าทายในระยะสั้น, ความไม่แน่นอนในตลาดยังคงสนับสนุนสินทรัพย์ทางเลือก DBS ยังคงให้น้ำหนักการลงทุน “Overweight” ในทองคำ เนื่องจากสินทรัพย์ปลอดภัยมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น หลังมีความตึงเครียดทางการค้ารวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลังของสหรัฐฯ

ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์ การใช้กลยุทธ์พอร์ตการลงทุนที่ผสมผสานสินทรัพย์ในตลาดและนอกตลาด โดยใช้กองทุนกึ่งสภาพคล่องในสินทรัพย์นอกตลาด (Semi-liquid Asset) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับมือกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจ และนโยบายที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์นอกตลาดมีความสัมพันธ์ที่ต่ำเมื่อเทียบกับตลาด

สรุปการลงทุนสำหรับไตรมาส 1 ปี 2025 นโยบายมหภาค การลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องของ Fed และ ECB คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อไป ในขณะที่ BOJ ยังคงดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้อย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มเศรษฐกิจ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความยืดหยุ่น ขณะที่การเติบโตในยุโรปยังคงอ่อนแอจากการส่งออกที่ชะลอตัว และคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีน เพื่อยกระดับการบริโภคในประเทศ

หุ้น ยังคงชื่นชอบหุ้นสหรัฐฯ มากกว่าหุ้นยุโรป และญี่ปุ่น เนื่องจากอัตรากำไรของบริษัทที่สูง การเติบโตภายในประเทศที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น มีการลงทุนในโครงสร้างของ AI อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงแรงสนับสนุนจากนโยบายแบบขยายตัวภายใต้การดำเนินงานของทรัมป์ ขณะที่ภูมิภาคอาเซียนยังจะคงได้รับผลประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย และนโยบาย China+1

เครดิต คาดว่าการผ่อนคลายนโยบายทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นต่อไป โดยมุ่งเน้นที่การลงทุนในพันธบัตร A/BBB ที่มีผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ดีที่สุด จากภาวะที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาคเอกชนที่แคบลง (Tighten credit spread) จึงแนะนำให้`Overweight`ในตลาดตราสารหนี้อายุ 2-3 ปี และ 7-10 ปี เพื่อควบคุมความเสี่ยงในการลงทุนในอนาคต และยังคงได้รับผลประโยชน์จากลดลงของส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาคเอกชน

อัตราดอกเบี้ย คาดว่า Fed จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย แต่แนวโน้มจะไม่มากนัก ภายใต้การดำเนินงานของทรัมป์

สกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งจากแนวโน้มของดอกเบี้ยที่ต่ำลง ขณะที่ยูโรและหยวนจะความมีอ่อนไหวเพิ่มขึ้นจากการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า

สินทรัพย์ทางเลือก ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อทองคำจากการขาดดุลทางการคลังของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ควรเน้นกลยุทธ์พอร์ตการลงทุนที่ผสมผสานสินทรัพย์ทั้งในตลาดและนอกตลาด โดยใช้กองทุนกึ่งสภาพคล่องในสินทรัพย์นอกตลาด (Semi-liquid Asset) เพื่อการบริหารสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ

 

สินค้าโภคภัณฑ์ ยังมีความผันผวนต่อไปในระยะสั้น จากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความต้องการสำหรับโลหะอุตสาหกรรม และสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตร ขณะที่วาระความมั่นคงด้านพลังงานของสหรัฐฯ อาจกดดันราคาน้ำมัน คาดว่าราคาของกาแฟและโกโก้ยังมีแนวโน้มที่ดีกว่าสินค้าโภคภัณฑ์อื่น เนื่องจากความต้องการทั่วโลกที่ยังคงแข็งแกร่งแม้จะมีอุปสรรคด้านอุปทาน

Thematic focus การลงทุนในธุรกิจกีฬามีการเติบโตอย่างรวดเร็วในการถ่ายทอดสดกีฬาประเภทต่างๆกระจายไปถึงความตื่นตัวที่เพิ่มขึ้นสำหรับกีฬาผู้หญิงและเยาวชน รวมถึงการแข่งขันอีสปอร์ต ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้ ได้แก่: (i) ธุรกิจการวิเคราะห์ทางด้านกีฬา, (ii) ธุรกิจการสตรีมมิ่ง, (iii) ธุรกิจการขายตั๋ว, และ (iv) ธุรกิจเกมกีฬา

 

Click Donate Support Web 

PTG 720x100

MTI 720x100

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!