: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
จีน เผยจะ'ต่อสู้จนถึงที่สุด'หลังทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีเพิ่ม 50%
CNBC China Economy : Anniek Bao @in/anniek-bao-460a48107/ @anniekbyx
จุดสำคัญ
กระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า 'คัดค้านอย่างเด็ดขาด'ต่อการคุกคามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้า
ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 50% ในวันพุธ หากปักกิ่งไม่ยกเลิกภาษี 34% ที่เคยเรียกเก็บกับสินค้าของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อวันอังคาร ธนาคารประชาชนจีนกำหนดอัตรากลางของเงินหยวนในประเทศไว้ที่ 7.2038 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ตามที่ผู้ให้บริการข้อมูล Wind Information ระบุ
กระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า ‘คัดค้านอย่างเด็ดขาด’ต่อการคุกคามของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรและให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 50% ในวันพุธ หากปักกิ่งไม่ยกเลิกภาษี 34% ที่เคยเรียกเก็บกับสินค้าของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุในเอกสารแปลของ CNBC ว่า “การที่สหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนนั้นเป็นความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จีนจะไม่มีวันยอมรับเรื่องนี้ หากสหรัฐฯ ยืนกรานที่จะทำในแบบของตนเอง จีนก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด”
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของจีนประกาศเก็บภาษีเพิ่มเติม 34%กับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบโต้การที่ทรัมป์จัดเก็บภาษีเพิ่มจากจีนอีก 34%
อัตราภาษีแบบครอบคลุมทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เรียกเก็บภาษี 10%-15% มาแล้ว 2 รอบ โดยมุ่งเป้าไปที่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและพลังงานที่นำเข้าจากสหรัฐฯ เป็นหลัก Gabriel Wildau กรรมการผู้จัดการของ Teneo กล่าวว่าขอบเขตภาษีที่กว้างขึ้นนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความหวังที่ลดน้อยลงของผู้นำจีนสำหรับข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ
ภาษีนำเข้าจากจีน 34% ของทรัมป์นั้นนอกเหนือไปจากภาษีนำเข้า 20% ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ภาษีนำเข้าจากจีนในปีนี้รวมแล้วอยู่ที่ 54% ภาษีนำเข้าเพิ่มเติมดังกล่าวทำให้ภาษีนำเข้าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของสหรัฐฯ ต่อจีนเพิ่มสูงขึ้นถึง 65% และอาจทำให้เศรษฐกิจของจีนได้รับผลกระทบ 1.5 ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ตามข้อมูลของ Morgan Stanley
“เนื่องจากจีนเผชิญอัตราภาษีศุลกากรมากกว่า 60% แล้ว จึงไม่มีความสำคัญจริงๆ ว่า อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้น 50% หรือ 500%” เทียนเฉิน ซู นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Economist Intelligence Unit กล่าว พร้อมแนะว่าปักกิ่งเตรียมพร้อมสำหรับสงครามการค้า’เต็มรูปแบบ’กับสหรัฐฯ
“จีนอยู่ฝ่ายรับ แต่โดยพื้นฐานแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็กำลังทดสอบขีดจำกัดของกันและกัน” ซู่กล่าว
Xu กล่าวเสริมว่า เนื่องจากความเสี่ยงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่รุนแรงเพิ่มขึ้น ปักกิ่งอาจต้องใช้มาตรการตอบโต้เพิ่มเติม เช่น หยุดซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ จัดเก็บภาษีศุลกากรเท่ากับสหรัฐฯ และขยายการควบคุมการส่งออกโลหะและแร่ธาตุเพิ่มเติม
ปักกิ่ง ได้กำหนด มาตรการควบคุมการส่งออกธาตุหายากที่สำคัญแล้วห้ามการส่งออก สินค้าที่ใช้ได้สองทางไปยังนิติบุคคลของสหรัฐฯ กว่าสิบแห่งและเพิ่มบริษัทของสหรัฐฯ เข้าไปใน ‘รายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ’ ส่งผลให้บริษัทเหล่านั้นต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่กว้างขึ้นขณะดำเนินกิจการในจีน
ธนาคารประชาชนจีนกำหนดอัตรากลางของเงินหยวนในประเทศ ที่ 7.2038 ต่อดอลลาร์ เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 ตามข้อมูลจาก Wind Information โดยอนุญาตให้เงินหยวนซื้อขายได้ภายในช่วง 2% ของอัตรากลางนี้
การที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงถือเป็น 'สัญญาณสำคัญ'โรบิน บรูคส์ นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบัน Brookings กล่าวกับรายการ 'Squawk Box Asia'ของ CNBC'นี่คือ ปักกิ่งที่พูดอย่างสุภาพว่าสถานการณ์นี้เริ่มจะมากเกินไปแล้ว เรากำลังแจ้งเตือนคุณ เราสามารถปรับค่าเงินลงได้หากต้องการ และสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอาจเกิดขึ้นหากคุณทำแบบนี้ต่อไป”
'นี่เป็นการยิงที่ชัดเจนข้ามหัวเรือวอชิงตัน'บรูคส์กล่าวเสริม
ค่าเงินหยวนในประเทศของจีน อ่อนค่าลงถึง 0.39% อยู่ที่ 7.3363 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินหยวนนอกประเทศแทบไม่เปลี่ยนแปลง
ทรัมป์ แสดงสัญญาณการถอนตัวจากภาษีศุลกากรเพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นในตลาดการเงินและสัญญาณของความผิดหวังแม้กระทั่งในหมู่พันธมิตรของเขาในโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีกล่าวว่า ”การเจรจากับจีนทั้งหมดเกี่ยวกับการพบปะที่ร้องขอกับเราจะถูกยุติ!”
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ตอบสนองต่อคำขอแสดงความคิดเห็นของ CNBC
“การยกระดับความตึงเครียดอาจเป็นผลลัพธ์ในระยะสั้นเพียงอย่างเดียว แต่การเจรจาจะเกิดขึ้นในที่สุดเมื่อทั้งสองฝ่ายรู้สึกถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว”Xu กล่าว
ในงานแถลงข่าวประจำวันอังคาร หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่าปักกิ่งจะดำเนิน'มาตรการที่จำเป็น' เพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากสหรัฐฯ ตามการแปลรายงานของ CNBC ในสื่อของรัฐบาลจีน
เขาย้ำคำกล่าวของกระทรวงพาณิชย์อีกครั้งว่า 'หากสหรัฐฯ ยืนกรานที่จะทำสงครามภาษี สงครามการค้า จีนจะสู้จนถึงที่สุด'
