AMARC โชว์ฟอร์มสวย ปิดงบปี 67 กำไรทะยานกว่า 313% บอร์ดชงแจกเงินปันผลอีก 0.02 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 28 เม.ย. กางแผนปี 68 ตั้งธงรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% รับดีมานด์การบริโภคฟื้นตัว
บมจ.ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย หรือ AMARC (เอมาร์ค) ประกาศงบปี 2567 ฟอร์มสวย เติบโตในทุกกลุ่มบริการ ดันรายได้จากการบริการรวมอยู่ที่ 345.27 ลบ. โต 19.4% จากปีก่อน มีกำไรสุทธิ 39.89 ลบ. โต 313.7% จากการบริโภคฟื้นตัว และผลจากการบุกตลาดภูมิภาค และการขยายขอบข่ายการให้บริการ ด้านบอร์ดชงจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอีก 0.02 บาทต่อหุ้น กำหนด Record Date วันที่ 28 เม.ย. 68 วันจ่ายปันผลวันที่ 16 พ.ค. 68 ตั้งธงรายได้ปี 68 โตไม่ต่ำกว่า 10% ผลจากภาคธุรกิจเกษตร อาหาร กลับมาเติบโต
ดร.ชินดนัย ไชยยอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMARC (เอมาร์ค) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 39.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 313.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า มีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของบริการตรวจวิเคราะห์ ซึ่งถือเป็นบริการหลักและมีอัตรากำไรสูง และประสิทธิภาพของการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย ตลอดจนต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทฯและบริษัทย่อยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยมีรายได้จากการบริการรวม 345.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการเติบโตในทุกกลุ่มบริการ โดยเฉพาะกลุ่มบริการตรวจวิเคราะห์ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อันเนื่องมาจากการขยายขอบข่ายบริการมากกว่า 800 รายการทดสอบ ในปี 2565 และ 2566 มีรายได้จากบริการตรวจวิเคราะห์ (Testing) 311.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเติบโตจากกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ จากการขยายขอบข่ายและกำลังการให้บริการ รวมถึงการเติบโตของรายได้จากส่วนภูมิภาค ลูกค้าส่งออกและลูกค้าใหม่
ส่วนกลุ่มงานสอบเทียบ (Calibration) 13.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.6% และกลุ่มงานตรวจสอบและรับรองระบบ (Inspection & Certification) รายได้ 18.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.1% เทียบกับปีก่อนหน้า โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากงานโครงการของรัฐที่มีการใช้งบประมาณมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/2567 ซึ่งเป็นช่วงก่อนปิดงบประมาณประจำปี นอกจากนี้ ในปี 2567 ยังมีรายได้บริการอบรมและสัมมนา โดยบริษัทย่อย (Amarc Global Verification) 0.43 ล้านบาท
“ผลประกอบการที่ออกมาเป็นที่น่าประทับใจทั้งรายได้และกำไร โดยบริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรขั้นต้นเติบโตขึ้น 28.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ทุกกลุ่มบริการโดยเฉพาะรายได้จากการบริการตรวจวิเคราะห์ ที่ได้รับประโยชน์จาก Economy of Scale และการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.ชินดนัย กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น และสะท้อนความเชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จากผลกำไรสุทธิสำหรับปีหลังหักสำรองตามกฎหมายในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท โดยมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2567 ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท และครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท ดังนั้นคงเหลือเงินปันผลที่จะเสนอจ่ายในครั้งนี้ให้กับหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 420 ล้านหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท เป็นเงินจำนวน 8,400,000 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI
ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะจ่ายให้ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล วันที่ 29 เมษายน 2568 วันที่จ่ายปันผล วันที่ 16 พฤษภาคม 2568
สำหรับแผนธุรกิจปี 2568 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจมีทิศทางการเติบโตที่ดีจากภาพรวมการเติบโตของภาคเอกชน ทั้งบริการตรวจวิเคราะห์และบริการสอบเทียบ คาดว่าจะฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ส่งผลให้ภาคธุรกิจเกษตร อาหาร กลับมาเติบโต ถือเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนการเติบโตของ AMARC
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลัก 89% มาจากการตรวจวิเคราะห์อาหารและการเกษตร (Testing) ส่วนกลุ่มงานสอบเทียบ (Calibration) มีสัดส่วน 4% กลุ่มงานตรวจสอบและรับรองระบบ (Inspection & Certification) มีสัดส่วน 5% และรายได้อื่นๆ อีกประมาณ 2%โดย AMARC เป็นห้องแล็บบริการเอกชน สัญชาติไทยเพียงรายเดียว ขณะที่คู่แข่งรายอื่นจะเป็นผู้ให้บริการจากต่างประเทศ หรือหน่วยงานของรัฐ
2425