กรมพัฒน์นำผู้บริหาร-สื่อ ลงพื้นที่ รับฟังความเห็นธุรกิจ ESG-Wellness-ร้านอาหาร
กรมพัฒนาธุรกิจการค้านำทีมผู้บริหาร สื่อมวลชน ลงพื้นที่ จ.สระบุรี และนครราชสีมา พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการ 3 กลุ่มธุรกิจ ESG , Wellness และร้านอาหาร Thai SELECT เก็บข้อมูลปัญหา อุปสรรค สิ่งที่อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือ ก่อนนำมาจัดทำแผนสนับสนุนต่อไป
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 21-23 มี.ค.2568 กรมได้นำทีมผู้บริหารและสื่อมวลชน ลงพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.นครราชสีมา เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ ESG ธุรกิจ Wellness และธุรกิจร้านอาหาร Thai SELECT เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมสร้างความยั่งยืนแก่ภาคธุรกิจ รับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะด้านต่างๆ
รวมทั้งความต้องการได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐ ตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้รับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการ ก่อนที่จะนำมาทำแผนพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการ
และทั้ง 3 ธุรกิจยังเป็นธุรกิจที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุนของกรม เป็นธุรกิจเป้าหมายที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ จ้างงานคนในท้องถิ่น และเป็นธุรกิจที่ศักยภาพสูง สามารถพัฒนาให้เป็นหน่วยเศรษฐกิจหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดให้มีความเข้มแข็ง
สำหรับ ธุรกิจแรกที่ตรวจเยี่ยม คือ วิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ Silk COCOON Group อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เป็นธุรกิจ ESG จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2548 ปัจจุบันมีนายกิติศักดิ์ ขจรภัย รองประธานวิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ เป็นผู้นำ โดยวิสาหกิจฯ อยู่ใกล้กับศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สระบุรี จึงได้นำรังไหมมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
และกลุ่มวิสาหกิจฯ มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบนพื้นที่ 5 ไร่ ในพื้นที่ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เลี้ยงสายพันธุ์เหลืองไพโรจน์สระบุรี ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 30 วัน ต่อ 1 รุ่น ปัจจุบันใช้แรงงานคนในพื้นที่ตำบลตลาดน้อย 30 คน (ผู้สูงอายุ แม่บ้าน นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการหารายได้) โดยเริ่มต้นศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สระบุรี มาสอนทำพวงกุญแจรังไหม และดอกทิวลิปรังไหม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมได้นำนักออกแบบมาทำการสอนเย็บรังไหมด้วยมือ และออกแบบเป็นของใช้ ของตกแต่ง และเครื่องประดับ โดยนำรังไหมมาผ่าครึ่งขึ้นรูปเป็นโคมไฟรังไหมที่มีความสวยงาม สามารถจำหน่ายได้สูงถึงชิ้นละ 10,000 บาท เป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น และยังได้คัดเลือกนำสินค้าไปทดสอบตลาดที่ประเทศญี่ปุ่น
นำสินค้าไปจัดแสดงในงานเอเปก ทำให้ขยายตลาดสินค้าไปต่างประเทศได้ ส่วนสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้ช่วย คือ ช่วยขยายตลาดต่างประเทศ เช่น สนามบิน ร้านของของที่ระลึก ขยายช่องทางการตลาดออนไลน์ และช่องทางตลาดในประเทศ เช่น ออกงานแสดงิสนค้า เจรจาจับคู่ธุรกิจ
ส่วนธุรกิจที่ 2 ธุรกิจ Wellness ได้พบปะพูดคุยกับ น.ส.ชวนัสถ์ สินธุเขียว ประธานสมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย และเจ้าของ TUSCAN Senses Spa ตั้งอยู่ภายใน Toscana Valley เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พบว่า กำลังพัฒนาพื้นที่สู่การเป็นศูนย์กลาง Wellness ที่ให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม เช่น สปา อาหารออแกนิกส์ ดนตรีบำบัด ฟิตเนส โยคะ คลินิกความงามและการชะลอวัย ที่มีการแพทย์และสิ่งอำนวยความสะดวก
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน โดย TUSCAN Senses Spa และบริษัทในเครือ ยังมีส่วนช่วยยกระดับเศรษฐกิจชุมชน โดยการจ้างงานคนในพื้นที่ และอุดหนุนผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาลทั้ง สมุนไพร พืชผัก ผลไม้ มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับบริการสปาและร้านอาหาร รวมทั้งใส่ใจเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ธุรกิจที่ 3 ธุรกิจร้านอาหาร Thai SELECT ร้านเป็นลาว เขาใหญ่ เป็นร้านอาหารอีสานชื่อดังที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของเขาใหญ่ จุดเด่นของร้าน คือ รสชาติอาหารที่จัดจ้านแบบอีสานแท้ๆ พร้อมวัตถุดิบสดใหม่ เมนูยอดนิยม ได้แก่ ส้มตำปูปลาร้า ไก่ย่างสูตรพิเศษ และลาบหมู โดยการตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์บ้านไม้แบบเรียบง่าย รับกับบรรยากาศการรับประทานอาหารแบบบ้าน ๆ ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน มี 3 สาขา ที่เขาใหญ่และหัวหิน ได้รับตราสัญลักษณ์
Thai SELECT จากกรมแล้วตั้งแต่ปี 2566 และสาขาพระราม 2 อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสมัครเพื่อขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT
“หลังจากที่กรมได้รับฟัง พูดคุยถึงรายละเอียดปัญหา อุปสรรคของผู้ประกอบการ รวมทั้งความต้องการได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐของทั้ง 3 ธุรกิจแล้ว จะเร่งสรุปปัญหา อุปสรรค ความต้องการของภาคธุรกิจ พร้อมจัดทำแผนพัฒนาและสนับสนุนธุรกิจแต่ละพื้นที่อย่างครบวงจร โดยเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ พร้อมทั้งจะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจนำนวัตกรรมมาใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจและประชากรในชุมชน ซึ่งผลจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีความเชื่อมั่นว่า ธุรกิจท้องถิ่นจะเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญในพื้นที่ และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งได้”นางอรมนกล่าว