MGT ปี 67 รายได้ 1,072.48 ลบ.กำไร 104.44 ลบ. มั่นใจโต 20%
MGT โชว์รายได้ ปี2567 รวม 1,072.48 ล้านบาท กำไร 104.44 พุ่ง 21.7% ออเดอร์สั่งซื้อเคมีภัณฑ์ยุโรป ญี่ปุ่นไหลเข้า หนุนยอดซื้อพุ่ง เจาะสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ABi มั่นใจผลงานปีนี้เข้าเป้าโต 20% เพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร การปรับเปลี่ยนสู่องค์กรอัจฉริยะ AI ปันผล 0.07 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 07/05/68 จ่าย 22/05/68
ดร.วิทยา อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) MGT เผยว่า รายได้ในไตรมาสที่ 4/2567 ที่ 263.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.39 ล้านบาท เติบโต 10.47% ส่งผลให้ ปี 2567 มีรายได้รวม 1,072.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.72 ล้านบาท เติบโต 14.13% และมีกำไร 104.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.7% แจ้งมติคณะกรรมการการจ่ายเงินปันผล ประจำปี 2568 ปันผล 0.07 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 07/05/68 จ่ายวันที่ 22/05/68 รวมจ่ายปันผลทั้งปี ที่ 0.10 บาทต่อหุ้น สำหรับ ปี 2568 บริษัทฯวางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายที่ 1,300 ล้านบาท กำไรประมาณ 10%
นายวริทธิ์ อินาลา กรรมการบริหาร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาองค์กร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) MGT กล่าวว่า บริษัท เตรียมปรับปรุงการดำเนินการ ERP การเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร การปรับเปลี่ยนสู่องค์กรอัจฉริยะ AI ในปี 2568 รวมทุกฟังก์ชั่นที่องค์กรต้องใช้คลังสินค้า ซื้อ ขาย ผลิต บัญชี เงินเดือน อนุมัติเอกสาร เชื่อมโยงทุกแผนกแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ระบบงานย่อยในหน่วยงานต่างๆ เชื่อมโยงเข้าหากัน รวมทั้งกรณีไปควบรวมกับกิจการอื่น ก็จะสามารถนำมาเชื่อมโยงระบบกันได้ง่ายขึ้น
อย่างไรกตาม ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตสินค้าหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้ดีมานด์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษยังมีวอลุ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กลุ่มลูกค้า ยังเป็นกลุ่มเดิม รถยนต์ สี และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ล้วนใช้เคมีภัณฑ์ในการผลิต มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเทรนด์ ESG ถือเป็นเป้าหมายหลักของหลายองค์กร บริษัทมีสินค้า ESG และมีความได้เปรียบมากกว่ารายเล็ก ส่งผลให้มียอดขายต่อเนื่อง
ด้านธุรกิจไบโอเทคโนโลยี ในประเทศเกาหลี ABio Materials Co., Ltd. ผู้ผลิตสเต็มเซลล์ มีพัฒนาการงานวิจัยก้าวหน้าไปมาก จนปัจจุบันมีพาร์ตเนอร์เกาหลีรายอื่นสนใจเข้าร่วมลงทุน และบริษัทอาจจะพิจารณารับพาร์ตเนอร์เพิ่มเติม โดยเงินทุนจากพาร์ตเนอร์รายใหม่ บริษัทจะนำไปขยายฐานการลงทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจต่อไป
สำหรับ ทิศทางรายได้รวมทั้งปีนี้ บริษัทมั่นใจจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย หรือเติบโต 30% ซึ่งเป็นการเติบโตแบบ Organic นอกจากนี้ MGT ยังมีบริษัทในเครือ ประกอบไปด้วย บริษัท เมกาเคม พลัส จำกัด บริษัท กรีน ลีฟ เคมีคอล จำกัด บริษัท เมกา ฟูจิ กราไฟท์ จำกัด และบริษัท Megachem (Myanmar) Ltd.
ส่วนความคืบหน้า บริษัท เมกา ฟูจิ กราไฟท์ จำกัด การติดตั้งเครื่งจักรใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าสามารถผลิตสินค้าได้ประมาณเดือนกันยายน 2568 นี้ ซึ่งมีออเดอร์ลูกค้าญี่ปุ่น ยุโรปมารอรับอยู่แล้ว ส่วนฟู้ด ไบโอเทค ต้องรอดูสถานการ์ของตลาดโลกที่มีผันผวนอ่อนไหวตามจีโอโพลิติกส์ ระหว่างสหรัฐ และจีน
อย่างไรก็ตาม โดยทุกๆ บริษัทในเครือมีซัพพลายเออร์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายในการหาซัพพลายเออร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากจีน อินเดีย เกาหลี อินโดนีเซีย และเวียดนาม ส่วนญี่ปุ่นเคยมีซัพพลายเออร์เข้ามาบ้าง แต่ด้วยคุณภาพสินค้าสูง ทำให้ราคาสูงสอดคล้องกันไป เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มผลกำไรอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ ยังคงรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น และบริษัทฯต่อไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องติดตามความเสี่ยงทางด้านการค้า เช่น สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย อิสราเอล กับฮามาสและตะวันออกกลาง อาจจะกระทบต่อบริษัทในทุกๆ ด้าน