ส่งออก พ.ย. เพิ่ม 8.2% รวม 11 เดือน โต 5.1% ทั้งปีลุ้นทำนิวไฮทะลุ 3 แสนล้านเหรียญ
พาณิชย์ เผยส่งออกเดือน พ.ย.67 มีมูลค่า 25,608.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 8.2% บวกต่อเนื่อง 5 เดือนติด เหตุส่งออกเพิ่มทั้งเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร และอุตสาหกรรม รวม 11 เดือน มูลค่า 275,763.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 5.1% คาด ธ.ค.ยังส่งออกได้ดี มีลุ้นยอดรวมส่งออกทั้งปีทำนิวไฮใหม่ 3 แสนล้านเหรียญ โตทะลุเป้า 5.2% ส่วนปี 68 ตั้งเป้า 2-3% แม้จะมีความผันผวนทั้งนโยบายทรัมป์ 2.0 การค้าโลกชะลอตัว ภูมิรัฐศาสตร์ แต่มั่นใจแผนขับเคลื่อนที่ทำไว้เอาอยู่
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน พ.ย.2567 มีมูลค่า 25,608.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.2% ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 849,069 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 25,832.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.9% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 867,456 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 224.4 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 18,387.1 ล้านบาท
รวม 11 เดือน ของปี 2567 (ม.ค.-พ.ย.) การส่งออก มีมูลค่า 275,763.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.1% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 9,695,455 ล้านบาท การนำเข้า มูลค่า 282,033.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.7% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 10,032,550 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 6,269.8 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 337,096 ล้านบาท
สำหรับ การส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.7% โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 4.1% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 7.7% โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ ยางพารา ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง และผลไม้กระป๋องและแปรรูป ส่วนสินค้าที่ลดลง อาทิ ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำตาลทราย และไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ทั้งนี้ 11 เดือนของปี 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 5.7%
ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 9.5% โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนสินค้าที่หดตัว อาทิ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด ทั้งนี้ 11 เดือนของปี 2567 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 5.5%
ทางด้านตลาดส่งออกสำคัญ ส่วนใหญ่ขยายตัวได้ดี ตลาดหลัก เพิ่ม 8.3% โดยสหรัฐฯ เพิ่ม 9.5% จีน เพิ่ม 16.9% สหภาพยุโรป (27) เพิ่ม 11.2% CLMV เพิ่ม 21.0% ส่วนญี่ปุ่น ลด 3.7% และอาเซียน (5) ลด 1.5% ตลาดรอง เพิ่ม 7.1% โดยเอเชียใต้ เพิ่ม 18.3% ทวีปออสเตรเลีย เพิ่ม 1.0% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 1.7% แอฟริกา เพิ่ม 13.8% ลาตินอเมริกา เพิ่ม 31.8% และสหราชอาณาจักร เพิ่ม 12.0% ส่วนรัสเซียและกลุ่ม CIS ลด 5.3% และตลาดอื่นๆ เพิ่ม 29.0%
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกในเดือน ธ.ค.2567 คาดว่าขยายตัวต่อเนื่อง หากทำได้ประมาณ 24,300 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมกับยอด 11 เดือน จะทำให้ทั้งปีส่งออกได้สูงถึง 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2% และจะเป็นตัวเลขส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกเกิดในปี 2565 ที่ส่งออกได้มูลค่า 287,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น เจาะดูแล้ว พบว่า เป็นการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบประมาณ 70% ซึ่งเป็นการนำเข้ามาเพื่อผลิตและจำหน่ายในประเทศและส่งออก ไม่มีอะไรน่ากังวล
สำหรับ เป้าส่งออกปี 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชน ทูตพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดเป้าไว้ที่ 2-3% ซึ่งเป็นเป้าที่ท้าทาย ท่ามกลางมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบใด แนวโน้มการค้าโลกที่อาจชะลอตัว ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่คลี่คลาย ดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูง ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
แต่กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว ทั้งการเดินทางไปหารือกับสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ.2568 การเตรียมยุทธศาสตร์ส่งออก 10 มาตรการ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การผลักดันการส่งออกในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่จะช่วยเพิ่มยอดส่งออก การขยายฐานตลาดการค้าใหม่ การผลักดันการเจรจา FTA ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค และการทำงานร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ตัวเลข พ.ย.ชัดขึ้น เหลือเดือน ธ.ค.อีกเดือนเดียว มีความเป็นไปได้ที่ปีนี้น่าจะทำตัวเลขได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก็ขอแสดงความยินดีกับทุกท่าน ที่ทำงานร่วมกันมา ส่วนปีหน้า 2-3% เป็นการตั้งตัวเลขที่ท้าทาย เพราะมีปัญหามากมาย ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ กฎระเบียบสิ่งแวดล้อม นโยบายทรัมป์ 2.0 ซึ่งผู้ประกอบการไทยต้องระวัง และต้องหาทางลดต้นทุน เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการในทันที
ส่งออกปลายปีแรงดีไม่มีตก ขยายตัว 5 เดือนต่อเนื่อง พ.ย. ขยายตัว 8.2% 🚢✈️🌏📊
การส่งออกของไทยในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีมูลค่า 25,608.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (849,069 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ที่ร้อยละ 8.2 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 7.0 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญจากการส่งออกสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ที่เติบโตในระดับสูง สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของโลก
ขณะที่การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวเชิงรุกของประเทศต่างๆ เพื่อรับมือกับพลวัตทางการค้ารูปแบบใหม่และความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารในตลาดโลก ยังเป็นแรงหนุนสำคัญที่ผลักดันให้การส่งออกของไทยเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ ทั้งนี้ การส่งออกไทย 11 เดือนแรกของปี 2567 ขยายตัวร้อยละ 5.1 และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 4.9
📊 มูลค่าการค้ารวม
💰 มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ
เดือนพฤศจิกายน 2567 การส่งออก มีมูลค่า 25,608.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.2 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 25,832.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 0.9 ดุลการค้า ขาดดุล 224.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวม 11 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออก มีมูลค่า 275,763.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.1 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 282,033.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.7 ดุลการค้า 11 เดือนแรกของปี 2567 ขาดดุล 6,269.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
💰 มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท
เดือนพฤศจิกายน 2567 การส่งออก มีมูลค่า 849,069.3 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 0.6 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 867,456.4 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 7.2 ดุลการค้า ขาดดุล 18,387.1 ล้านบาท ภาพรวม 11 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออก มีมูลค่า 9,695,455 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.3 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 10,032,550 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.8 ดุลการค้า 11 เดือนแรกของปี 2567 ขาดดุล 337,096 ล้านบาท
📊 แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป
การส่งออกปี 2567 และแนวโน้มปี 2568 กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกทั้งปี 2567 จะทำสถิติใหม่ด้วยมูลค่ากว่า10 ล้านล้านบาท สะท้อนความสำเร็จที่เหนือกว่าเป้าหมายที่วางไว้ อันเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการดำเนินนโยบายเชิงรุก ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้าและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ
สำหรับ แนวโน้มในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2-3 ภายใต้บริบทความท้าทายที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ แนวโน้มการค้าโลกที่อาจชะลอตัว ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย อัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวในระดับสูง ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ด้วยการขับเคลื่อน 10 นโยบายยุทธศาสตร์การส่งออกของกระทรวงพาณิชย์
ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การขยายฐานตลาดการค้าใหม่ ไปจนถึงการเร่งผลักดันความตกลงการค้าเสรี (FTA) ให้ครอบคลุมพันธมิตรทางการค้าในทุกภูมิภาค ประกอบกับการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขอุปสรรคทางการค้า จะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและรักษาการเติบโตของภาคการส่งออกไทยในระยะต่อไป
#สนค #สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า #TPSO #กระทรวงพาณิชย์ #MOCThailand #MOC #ข่าวเศรษฐกิจ
.💾 ข้อมูลฉบับเต็ม: ในคอมเมนต์ด้านล่าง
🙏 ขอบคุณข้อมูล: กองยุทธศาสตร์การพัฒนาความสามารถทางการแข่งขัน (พข.)
.ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจการค้าก่อนใครที่
📌 LINE: @TPSO.tradeinsights
📌 Website : tpso.go.th