: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
เหตุใดจึงเป็นเรื่องยากที่ทรัมป์...จะพลิกผลการเลือกตั้งปี 2024
CNBC USA POLITICS : NBC NEWS Dan De Luce
Republican presidential nominee, former U.S. President Donald Trump looks on during a roundtable with faith leaders at Christ Chapel on October 23, 2024 in Zebulon, Georgia.
Anna Moneymaker | Getty Images
โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ เพิ่มข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง ว่าพรรคเดโมแครตกำลังวางแผนที่จะ 'โกง'หรือ ‘ขโมย’ การเลือกตั้ง ซึ่งทำให้เกิดความกลัวว่าอดีตประธานาธิบดีกำลังเตรียมการสำหรับ ความพยายามที่จะพลิกผลการเลือกตั้ง หากรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสได้รับชัยชนะ
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่าความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะขัดขวางกระบวนการเลือกตั้งในครั้งนี้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคใหม่ๆ มากมาย ทำให้ความพยายามดังกล่าวไม่น่าจะประสบความสำเร็จ การคุ้มครองใหม่ๆ ได้แก่ กฎหมายการเลือกตั้งที่รัฐสภาผ่านหลังการก่อกบฏเมื่อวันที่ 6 มกราคม คำตัดสินของศาลเมื่อเร็วๆ นี้การเฝ้าระวังที่มากขึ้นจากเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งของรัฐ และ การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยหน่วยงานต่างๆ ที่มุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงซ้ำรอยที่อาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
'ครั้งนี้ มันยากมาก' ริชาร์ด ฮาเซน ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกตั้งจาก UCLA กล่าว
ในปี 2020 ทรัมป์ได้ออกคำเตือนที่คล้ายกันก่อนการลงคะแนน เมื่อเขาแพ้โจ ไบเดน เขาได้ล็อบบี้เจ้าหน้าที่ในรัฐสำคัญเพื่อพลิกผลการเลือกตั้ง ยื่นฟ้องหลายคดีโดยอ้างว่ามีการฉ้อโกง และเรียกร้องให้ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของเขาปฏิเสธที่จะรับรองผลการเลือกตั้ง
แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่อต้านแรงกดดันของเขา ผู้พิพากษายกฟ้องคดีของทีมของเขา และเพนซ์ไม่เห็นด้วยกับทรัมป์และปฏิบัติตามหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการยืนยันผลของการลงคะแนนเสียง
ไม่เหมือนในปี 2020 ทรัมป์ไม่ได้เป็นประธานาธิบดีอีกต่อไปและไม่มีอำนาจของฝ่ายบริหารในการควบคุมดูแล และพระราชบัญญัติ ปฏิรูปการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง แบบสอง พรรคการเมืองซึ่งผ่านเมื่อปี 2022 ได้ทำให้กระบวนการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งมีความเข้มงวดยิ่งขึ้น ให้ศาลของรัฐบาลกลางมีบทบาทที่ชัดเจนในการแก้ไขข้อพิพาทอย่างรวดเร็ว และทำให้สมาชิกรัฐสภาไม่สามารถคัดค้านอย่างไม่สมเหตุสมผลได้
ความพยายามบางอย่างของกลุ่มที่สนับสนุนทรัมป์ในการเปลี่ยนแปลงวิธีการนับและรับรองคะแนนเสียงล้มเหลวไปแล้ว โดยผู้พิพากษาปฏิเสธมาตรการดังกล่าวเนื่องจากผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลฎีกาของจอร์เจียปฏิเสธความพยายามของกลุ่มรีพับลิกันที่สนับสนุนทรัมป์ในการเสนอกฎหมายการเลือกตั้งใหม่ในรัฐ รวมทั้งกฎหมายที่กำหนดให้ต้องนับคะแนนด้วยมือและกฎหมายอื่นๆ ที่จะทำให้กระบวนการรับรองล่าช้า
หากทรัมป์ พยายามที่จะท้าทายผลการเลือกตั้ง เขาจะมีสองทางเลือกในการพยายามพลิกผลการเลือกตั้ง และทั้งสองทางเลือกล้วนเป็น 'โอกาสที่เป็นไปไม่ได้' ฮาเซน ผู้อำนวยการโครงการ Safeguarding Democracy ที่ UCLA Law School กล่าว
วิธีหนึ่ง คือการพยายามชะลอการรับรองผลการเลือกตั้งในบางมณฑลหรือรัฐโดยอ้างถึงความผิดปกติหรือกล่าวอ้างอย่างอื่น ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งของรัฐและท้องถิ่นหลายสิบคนดำรงตำแหน่งในรัฐที่มีผลชี้ขาดการเลือกตั้ง ซึ่งปฏิเสธผลการเลือกตั้งประจำปี 2020 อย่างเปิดเผย ทำให้มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจปฏิเสธที่จะรับรองผลการเลือกตั้งหรือทำให้เกิดความล่าช้าอื่นๆ
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่าความพยายามดังกล่าวจะล้มเหลวอย่างแน่นอน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและอัยการสูงสุดของรัฐสำคัญๆ เช่น เพนซิลเวเนียและแอริโซนาให้คำมั่นว่าจะฟ้องรัฐบาลท้องถิ่นต่อศาลหากรัฐบาลท้องถิ่นพยายามชะลอกระบวนการนี้
Gowri Ramachandran จากโครงการการเลือกตั้งและรัฐบาลที่ Brennan Center for Justice แห่งคณะนิติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวว่า “คุณอาจยังมีคนพยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทุจริตเหล่านี้อยู่บ้าง แต่ฉันคิดว่าในท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งของรัฐ อัยการสูงสุด ซึ่งมักจะเป็นตัวแทนของพวกเขาในศาล และศาลเอง จะเป็นคนบอกให้ผู้คนทำหน้าที่ของตนเองและรับรองผลการเลือกตั้งที่ถูกต้อง”
เมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐสำคัญ 3 รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย แอริโซนา และวิสคอนซิน กล่าวว่าพวกเขาพร้อมที่จะฟ้องหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นหากพวกเขาปฏิเสธที่จะรับรองผลการเลือกตั้ง
“เราจะฟ้องพวกเขาต่อศาลทันทีเพื่อให้พวกเขารับรองผลการเลือกตั้ง และเราเชื่อมั่นว่าเพราะกฎหมายการเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนียมีความชัดเจนมาก ศาลจะสั่งให้เทศมณฑลต่างๆ รับรองผลการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด”อัล ชมิดท์ เลขาธิการรัฐเพนซิลเวเนีย กล่าว
คัทเลอร์เบย์ รัฐฟลอริดา - 27 ตุลาคม: ผู้คนกรอกบัตรลงคะแนนเสียงในช่วงการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าที่สถานีลงคะแนนเสียงของห้องสมุดภูมิภาคเซาท์เดดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2024 ในเมืองคัทเลอร์เบย์ รัฐฟลอริดา การลงคะแนนเสียงล่วงหน้าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมถึง 3 พฤศจิกายน ในเมืองไมอามี-เดดและโบรวาร์ด ผู้คนมุ่งหน้าไปที่คูหาเลือกตั้งเพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเลือกตั้งอื่นๆ ด้วย (ภาพโดย Joe Raedle/Getty Images)
ประชาชนกรอกบัตรลงคะแนนเสียงของตนในช่วงลงคะแนนเสียงล่วงหน้า ที่สถานีลงคะแนนของห้องสมุดภูมิภาค South Dade เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2024 ในเมืองคัตเลอร์เบย์ รัฐฟลอริดา
โจ เรเดิล | เก็ตตี้ อิมเมจส์
อีกทางหนึ่งสำหรับทรัมป์ ก็คือการพยายามพลิกผลการเลือกตั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ก่อนอื่น เขาจะต้องให้พรรครีพับลิกันควบคุมทั้งสองสภาและประกาศว่าพระราชบัญญัติปฏิรูปการนับคะแนนเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ทีมงานของทรัมป์จะพยายามโน้มน้าวให้สภานิติบัญญัติของรัฐที่พรรครีพับลิกันควบคุมส่งคณะผู้เลือกตั้งที่แข่งขันกัน แม้ว่านั่นจะเป็นบทบาททางกฎหมายของผู้ว่าการรัฐก็ตาม
แนวทางดังกล่าวจะต้องได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั้งในสภานิติบัญญัติของรัฐสภาและสภานิติบัญญัติของรัฐ เช่น เพนซิลเวเนียหรือมิชิแกน ในขณะนี้ การควบคุมสภานิติบัญญัติของเพนซิลเวเนียแบ่งออกระหว่างพรรคการเมืองทั้งสอง และพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติของมิชิแกน
บุคคลสำคัญในสถานการณ์ดังกล่าวคือประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจขัดขวางไม่ให้ผู้สมัครคนใดได้รับเสียงข้างมากจากคณะผู้เลือกตั้งได้ นั่นจะบังคับให้มีการเลือกตั้งฉุกเฉินในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป โดยแต่ละคณะผู้แทนของรัฐจะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเพียงเสียงเดียว พรรครีพับลิกันยังคงมีอำนาจเหนือกว่าและควบคุมคณะผู้แทนของรัฐได้มากกว่า
หากชิ้นส่วนทางการเมืองทั้งหมดเหล่านี้เข้าที่เข้าทาง ผู้จัดงานก็คงเดิมพันว่าศาลฎีกาจะตัดสินตามความต้องการของพวกเขาและสนับสนุนการฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งของรัฐบาลกลาง
แมทธิว แซนเดอร์สัน ทนายความด้านการเลือกตั้งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่า เขาคิดว่าเป็นไปได้ยากมากที่สถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นจนจบสิ้น
เขากล่าวผ่านอีเมลว่า ”แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะได้รับชัยชนะเหนือเสียงข้างมากเพียงเล็กน้อยในรัฐสภาชุดใหม่ที่จะประชุมกันในวันที่ 3 มกราคม แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ายากเหลือเกินที่จะเชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันจำนวนมากที่ร่วมสนับสนุนและลงคะแนนเสียงให้กับพระราชบัญญัติปฏิรูปการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งเมื่อเร็วๆ นี้ จะสามารถผ่านมติที่ระบุว่าพระราชบัญญัตินี้'ขัดต่อรัฐธรรมนูญ' ได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ก่อนการประชุมร่วมในวันที่ 6 มกราคม”
แต่ถึงแม้ว่า สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น แซนเดอร์สัน กล่าวว่า รัฐสภาไม่สามารถประกาศให้กฎหมายก่อนหน้านี้เป็น ”สิ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ” ได้
“ไม่มีกลไกในการทำเช่นนั้น” เขากล่าว “รัฐสภาทำได้แค่ยกเลิกกฎหมายที่มีอยู่เดิมเท่านั้น และมติร่วมกันของรัฐสภาจะไม่ยกเลิกอะไรทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ ฉันคิดว่าแม้แต่ศาลฎีกาที่ยึดมั่นในหลักอนุรักษ์นิยมก็อาจกล่าวได้ว่าพระราชบัญญัติการนับคะแนนการเลือกตั้ง (ที่ได้รับการปฏิรูปแล้ว) จะควบคุมกระบวนการนี้”
กลุ่มติดอาวุธ และความโกลาหลในการเลือกตั้ง
แม้ว่า จะมีอุปสรรคต่อการใช้กฎหมายเพื่อพลิกผลการเลือกตั้ง แต่การใช้ถ้อยคำอันแปรปรวนของทรัมป์ก็ได้ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับรัฐบาลกลาง ระดับรัฐ และระดับท้องถิ่นกังวลเกี่ยวกับวิกฤตที่อาจยืดเยื้อหลังวันเลือกตั้ง และความรุนแรงทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นที่หน่วยลงคะแนนเสียงหรือเมืองหลวงของรัฐ
คำพูดของทรัมป์ มีความเสี่ยงที่จะจุดชนวนกลุ่มติดอาวุธที่โต้ตอบคำพูดของเขาเมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยการบุกอาคารรัฐสภาและโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในอดีตและนักวิจัยที่ติดตามกลุ่มเหล่านี้กล่าว
คาดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะตัดสินกันด้วยคะแนนที่สูสี อาจต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ จึงจะประกาศผู้ชนะได้อย่างชัดเจน และเจ้าหน้าที่กังวลว่าความไม่แน่นอนอาจเป็นโอกาสให้กลุ่มติดอาวุธก่อความวุ่นวายหรือก่อความรุนแรงได้
กองกำลังต่อต้านรัฐบาลและกลุ่มที่มีแนวคิดเดียวกันอื่นๆ กำลังจัดระเบียบและรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดียในระดับและความเร็วที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เหตุการณ์นำไปสู่วันที่ 6 มกราคม 2021 ตามที่ระบุโดย Frank Figliuzzi อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายต่อต้านข่าวกรองของ FBI และผู้สนับสนุนด้านความมั่นคงแห่งชาติของ NBC News
เนื่องจากกังวลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นซ้ำรอยในวันที่ 6 มกราคม เอฟบีไอ เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งของรัฐ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จึงได้ใช้มาตรการป้องกันอย่างละเอียดเพื่อรักษาความปลอดภัยในการนับคะแนนและป้องกันความพยายามใดๆ ที่จะขัดขวางกระบวนการนับคะแนน เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนจึงวางแผนที่จะยกเลิกพิธีรับรองผลการเลือกตั้งในรัฐสภาของรัฐ ซึ่งเป็นพิธีที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และเปิดให้สาธารณชนเข้าชม
เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งทั่วประเทศได้ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ที่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจกเสื้อเกราะกันกระสุนให้กับเจ้าหน้าที่การเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่บอกกับ NBC News ว่าศูนย์นับคะแนนในเขตมาริโคปา รัฐแอริโซนา จะมีมือปืนซุ่มยิงอยู่บนหลังคาโดรนบินอยู่เหนือศีรษะ กล้องวงจรปิด และไฟสปอตไลท์เพื่อช่วยให้ตำรวจเฝ้าระวังพื้นที่
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้กำหนดให้การประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเป็นเวลาที่สมาชิกรัฐสภาจะรับรองคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี เป็น 'กิจกรรมพิเศษด้านความมั่นคงแห่งชาติ' ซึ่งถือว่ามีระดับความปลอดภัยเทียบเท่ากับกิจกรรมสำคัญๆ เช่น การแข่งขันซูเปอร์โบว์ลหรือการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติประจำปี
“หน่วยงานของรัฐบาลกลางเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการโจมตีครั้งสำคัญในกรุงวอชิงตัน” ฟิกลิอุซซีกล่าว
ต่างจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุด ความเสี่ยงต่อความรุนแรงมีแนวโน้มสูงกว่าในเมืองหลวงของรัฐหรือที่นั่งของมณฑล มากกว่าในวอชิงตัน เขากล่าว
“ผมเห็นว่า เป้าหมายที่อ่อนแอกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง” เขากล่าว “ผมเห็นว่าหน่วยงานในท้องถิ่น มณฑล และรัฐกำลังตกอยู่ในอันตราย นั่นคือจุดที่การดำเนินการเกิดขึ้น และพูดตรงๆ ว่านั่นอาจเป็นจุดอ่อนที่สุดก็ได้”
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงเผยแพร่ข้อมูลเท็จว่าพรรคเดโมแครตมีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง
การพนันดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จเมื่อสี่ปีที่แล้ว และผู้ที่เข้าร่วมในความพยายามดังกล่าวบางส่วน รวมถึงผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ลงนามในรายชื่อผู้เลือกตั้งปลอมให้กับเขา ก็ถูกดำเนินคดี
“เมื่อครั้งที่แล้ว ผู้คนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐขัดขืน สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐขัดขืน” Hasen จาก UCLA กล่าว “และแน่นอนว่า บางคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีอาญา ดังนั้น นี่จึงเป็นการยับยั้งใจสำหรับบางคน”
เมื่อพิจารณาจากอุปสรรคทางกฎหมายและการเมืองที่ต้องเผชิญกับความพยายามใดๆ ที่จะปฏิเสธและพลิกผลการเลือกตั้ง ทางเลือกที่ดีที่สุดของทรัมป์ในการกลับมาสู่อำนาจคืออะไร? ฮาเซนกล่าวว่า การชนะการเลือกตั้งอย่างถูกกฎหมายและถูกต้องตามกฎหมาย
