: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
จีนส่งสัญญาณความพร้อมปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง
CNBC CHINA World Politics : Anniek Bao @in/anniek-yunxin-bao-460a48107/ @anniekbyx
จุดสำคัญ
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงส่งสัญญาณชัดเจนในสัปดาห์นี้ว่าปักกิ่งพร้อมที่จะทำงานร่วมกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้าท่ามกลางความเสี่ยงของสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้น
ข้อความมากมายจากปักกิ่งสะท้อนให้เห็นถึง'ความวิตกกังวล'และ 'การแสดงออกเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเปิดเผยมาก' เคนเนธ จาร์เร็ตต์ ที่ปรึกษาอาวุโสของ Albright Stonebridge Group กล่าว
Gabriel Wildau กรรมการผู้จัดการของ Teneo กล่าวว่า “ในสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ซึ่งความตึงเครียดดำเนินไป ปักกิ่งสามารถชี้ไปที่แถลงการณ์ในช่วงแรกเหล่านี้เพื่อแสดงให้ส่วนอื่นๆ ของโลกเห็นว่าวอชิงตันเป็นฝ่ายที่ปฏิเสธความร่วมมือและการประนีประนอม”
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ส่งสัญญาณชัดเจนในสัปดาห์นี้ว่าปักกิ่งพร้อมที่จะทำงานร่วมกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้าท่ามกลางความเสี่ยงของสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้น
ในจดหมายถึงสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีนเมื่อวันพฤหัสบดี สีกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายควร'เลือกการเจรจาแทนการเผชิญหน้า ความร่วมมือแบบ win-win แทนเกมที่ผลรวมเป็นศูนย์' ในขณะเดียวกันก็ย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเปิดตลาดจีนสำหรับบริษัทต่างชาติ รวมถึงธุรกิจของสหรัฐฯ
คำกล่าวดังกล่าวสะท้อนถึงคำกล่าวของเขาในการประชุมกับผู้นำองค์กรเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่สำคัญเมื่อวันอังคาร โดยเขากล่าวว่า “จะไม่มีผู้ชนะในสงครามภาษี สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี” ตามคำแปลคำกล่าวของเขาเป็นภาษาจีนกลางของ CNBC สีเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายรักษาการเจรจาและจัดการกับความแตกต่าง
ข้อความมากมายจากปักกิ่งสะท้อนให้เห็นถึง 'ความวิตกกังวล' และ 'การแสดงออกเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเปิดเผยมาก' เคนเนธ จาร์เร็ตต์ ที่ปรึกษาอาวุโสของ Albright Stonebridge Group กล่าว
“นี่อาจหมายความว่า ทางการจีนขาดช่องทางในการเข้าถึงทีมงานใหม่ของทรัมป์ ... และปักกิ่งเชื่อว่าการสร้างภาพลักษณ์ต่อสาธารณชนว่ามีความเต็มใจที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่จะมีประโยชน์ทางการเมือง” จาร์เรตต์กล่าวเสริม
สงครามการค้าที่กำลังใกล้เข้ามา
นโยบายของทรัมป์ในการให้ความสำคัญกับอเมริกามาเป็นอันดับแรกกำลังสร้าง “ภัยคุกคามครั้งใหญ่” ต่อผู้กำหนดนโยบายของจีน ซึ่งกำลังเผชิญภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่แล้ว Shen Meng กรรมการธนาคารเพื่อการลงทุน Chanson & Co. ซึ่งมีฐานอยู่ในปักกิ่ง กล่าว
ทรัมป์ ซึ่งเตรียมเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ได้ให้คำมั่นว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก 10%ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ทรัมป์ ขู่ว่า จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเกิน 60%
เมื่อต้นเดือนนี้ รัฐบาลของโจ ไบเดนได้ประกาศข้อจำกัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นต่อการส่งออกชิปหน่วยความจำขั้นสูงและเครื่องจักรผลิตชิปไปยังบริษัทจีนของสหรัฐฯ วันรุ่งขึ้น ปักกิ่งตอบโต้ด้วยการห้ามการส่งออกวัสดุหายากหลายชนิดที่ใช้ในเซมิคอนดักเตอร์และการใช้งานทางทหาร
“จีนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแม้จะมีความมุ่งมั่นต่อการเติบโตและความสัมพันธ์ทางการค้าที่สร้างสรรค์ แต่จีนจะไม่ยอมถอยแม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากสหรัฐฯ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น” แดเนียล บาลาซ นักวิจัยจาก S. Rajaratnam School of International Studies กล่าว
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ หน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีนประกาศว่าได้เปิดการสอบสวนการผูกขาดกับ Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่สัญชาติอเมริกัน โดยบริษัทดังกล่าวถูกห้ามไม่ให้จัดส่งชิปที่ล้ำหน้าที่สุดไปยังจีน แต่ยอดขายชิปและโปรเซสเซอร์ที่ล้ำหน้ากว่าให้กับบริษัทจีนยังคงคิดเป็น 15% ของรายได้ในไตรมาสที่ 10 ของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มที่จะพยายามหาข้อตกลงโดยผ่านการเจรจา มากกว่าการใช้มาตรการภาษีศุลกากรที่เข้มงวด
อาจมีการ 'นำภาษีศุลกากรมาใช้บ้าง' แต่มีแนวโน้มว่า ”จะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด และไม่มีอะไรเกิดขึ้นกะทันหัน ใหญ่เกินไป หรือก่อให้เกิดความวุ่นวาย” นายแซม ราดวาน ประธานบริษัท Enhance International กล่าวกับ CNBC
การส่งออกถือเป็นจุดสว่างที่หายากในเศรษฐกิจของจีนที่กำลังถดถอย เนื่องจากบริษัทต่างๆ รีบเร่งส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้น แต่เมื่อมีการบังคับใช้การจัดเก็บภาษีที่เข้มงวดยิ่งขึ้น การส่งออกของจีนก็จะเผชิญกับการชะลอตัวเช่นกัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ย้ำเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าเขา'มั่นใจเต็มที่' ที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ โดยเรียกประเทศนี้ว่า 'เครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก'
บทนำแต่ไม่ใช่การยอมจำนน
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ซีบีเอสรายงานว่า ทรัมป์ได้เชิญผู้นำจีนเข้าร่วมพิธีเข้ารับตำแหน่งในเดือนหน้า
ปักกิ่งพยายามหลีกเลี่ยง ”ภาพลักษณ์ใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าสี จิ้นผิงไม่เป็นมิตรด้วยการไม่มาร่วมงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง” เดเร็ค ซิสเซอร์ส นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบันวิสาหกิจอเมริกันกล่าว
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ ซึ่งความตึงเครียดยังคงดำเนินต่อไป ปักกิ่งสามารถชี้ไปที่แถลงการณ์ในช่วงแรกเหล่านี้เพื่อแสดงให้ส่วนอื่นๆ ของโลกเห็นว่าวอชิงตันเป็นฝ่ายที่ปฏิเสธความร่วมมือและการประนีประนอม
กาเบรียล วิลเดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเนโอ
ไม่เคยมีเหตุการณ์ใดที่ผู้นำจีนจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของสหรัฐฯ ซึ่งปกติจะมีเอกอัครราชทูตจีนเป็นสักขีพยานมาก่อนเลย ซีบีเอสรายงานว่า
โฆษก กระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวกับผู้สื่อข่าว ในการแถลงข่าวประจำวันพฤหัสบดีว่า จีนได้รักษาการสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าของสหรัฐฯ และเปิดกว้างในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจและการค้าที่เข้ามาใหม่ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ต่อไป
แม้ว่า รัฐบาลจีนจะพยายามแสดงให้เห็นว่าจีน มีความเต็มใจที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ที่กำลังเข้ามาใหม่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจีนยินดีที่จะยอมประนีประนอมตามที่ทรัมป์ต้องการเสมอไป Gabriel Wildau กรรมการผู้จัดการของ Teneo กล่าว
ตัวอย่างหนึ่งของสัมปทานที่จีนสามารถทำได้คือการสัญญาว่าจะกำกับดูแลการค้าเฟนทานิล อย่างเข้มงวดยิ่ง ขึ้น ตามที่ Scissors กล่าว
“ในสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่า นี้ซึ่งการยกระดับความตึงเครียดดำเนินต่อไป ปักกิ่งสามารถชี้ไปที่แถลงการณ์ในช่วงแรกเหล่านี้เพื่อแสดงให้ส่วนอื่นๆ ของโลกเห็นว่าวอชิงตันเป็นฝ่ายที่ปฏิเสธความร่วมมือและการประนีประนอม”วิลเดา กล่าวเสริม
