เนสท์เล่ชูความสำเร็จโครงการ “นักส่งเสริมสุขภาพดีรุ่นใหญ่”

เนสท์เล่ชูความสำเร็จโครงการ “นักส่งเสริมสุขภาพดีรุ่นใหญ่”
ดึงศักยภาพวัยเกษียณสร้างสังคมสูงวัยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัดจับมือยังแฮปปี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
และสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมืองกรมอนามัยเชิญชวนผู้สูงอายุมาร่วมสร้างสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
ผ่านโครงการ “Senior Health Promoter นักส่งเสริมสุขภาพดีรุ่นใหญ่”เป็นปีที่ 2
สังคมที่ดีเริ่มต้นจากการที่ทุกคนมีสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัยเนสท์เล่สานต่อปณิธานในการส่งเสริมโภชนาการและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทยผ่านโครงการ “Senior HealthPromoterนักส่งเสริมสุขภาพดีรุ่นใหญ่”เป็นปีที่ 2 ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการในปีที่แล้วเพื่อเชิญชวนผู้สูงอายุมาร่วมสร้างสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืนผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยในปีนี้บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัดได้ร่วมมือกับยังแฮปปี้ธุรกิจเพื่อสังคมที่มีเป้าหมายสร้างสังคมสูงวัยที่ดี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมืองกรมอนามัยเปิดรับ “นักส่งเสริมสุขภาพดีรุ่นใหญ่”หรืออาสาสมัครที่เป็นผู้สูงวัยที่ต้องการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ตนเองด้วยกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมพร้อมส่งต่อสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้สูงอายุท่านอื่นๆรอบตัวอีกด้วย

โครงการ “Senior HealthPromoterนักส่งเสริมสุขภาพดีรุ่นใหญ่”ปีที่ 2 เปิดรับอาสาสมัครสูงวัยจำนวน 50 ท่านเป็นตัวแทนแต่ละเขตของกรุงเทพมหานครเพื่อทำหน้าที่ส่งต่อพฤติกรรมสุขภาพดีลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่จริงด้วยการแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ผู้สูงวัยท่านอื่นๆและส่งเสริมการเข้าร่วมกิจกรรม “ภารกิจพิชิตสุขภาพดี”เป็นเวลา 12 สัปดาห์โดยปีนี้ผู้สูงวัยที่ร่วมโครงการ 1,024 คนร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผ่านการเรียนรู้เกี่ยวกับโภชนาการและการออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพนี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่างยั่งยืนและการเข้าร่วมโครงการนี้ถือว่าผู้เข้าร่วมช่วยลดค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุขของประเทศไทยอีกด้วย
นางสาวสลิลลาสีหพันธุ์ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์บริษัทเนสท์เล่(ไทย) จำกัดกล่าวว่า “โรคNCDsหรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตทั่วโลกโดยประชากรไทยเสียชีวิตประมาณ 4 แสนรายต่อปีจากกลุ่มโรคดังกล่าวและจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องดังนั้นการส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพเพื่อป้องกันโรคNCDsจึงเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัยที่นับเป็น 21% ของประชากรไทยเนสท์เล่เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพให้กับผู้สูงวัยผ่านกิจกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงเกิดการลงมือทำมีความต่อเนื่องและสร้างคุณค่าให้แก่ตนเองเพื่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ยั่งยืน”

นายชาคิตพรหมยศประธานกรรมการผู้จัดการบริษัทยังแฮปปี้จำกัด ได้อธิบายถึงจุดประสงค์ของการริเริ่มโครงการนักส่งเสริมสุขภาพดีรุ่นใหญ่ว่า “เหตุผลสำคัญของการริเริ่มโครงการคือการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพเพื่อลดค่ารักษาพยาบาลระยะยาวข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่าผู้สูงอายุที่เข้าสู่ภาวะพึ่งพิงจะมีค่าใช้จ่ายการดูแลระยะยาวสูงถึง 16,720 บาทต่อเดือนหรือกว่า200,000 บาทต่อปีโครงการจึงได้เน้นการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพผ่านการสร้างเครือข่ายโดยเฉพาะผู้สูงอายุในสังคมเมืองที่เผชิญกับปัญหาความเหงาและภาวะซึมเศร้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเพราะหากสามารถลดความเสี่ยงและยืดช่วงเวลาที่ผู้สูงอายุยังคงแอคทีฟได้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่อครอบครัวและลดภาระสาธารณสุขของประเทศได้อย่างมหาศาล”
ภาคีเครือข่ายคนไทยไร้พุงสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กล่าวว่า “โครงการSenior HealthPromoter2025 เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ผู้สูงอายุตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของตนเองพร้อมทั้งลุกขึ้นมามีบทบาทในการขับเคลื่อนสุขภาพของครอบครัวชุมชนและสังคมโดยรวมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จเชิงประจักษ์โดยผู้สูงอายุสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นหลักฐานชัดเจนว่าการลงทุนในมาตรการส่งเสริมสุขภาพสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมได้สสส. มุ่งหวังว่าโครงการนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างสังคมสุขภาวะที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป”

นางสาวจันทร์ฉายวรรณศรีหัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า “กรมอนามัยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุในการดูแลส่งเสริมสุขภาพตนเองอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ครอบครัวและชุมชนโดยโครงการSenior HealthPromoter2025 ถือเป็นกลไกสำคัญที่สอดคล้องกับนโยบายด้านสุขภาพผู้สูงอายุของประเทศซึ่งในปีนี้มีผู้สูงอายุเข้าร่วมกว่า 1,024 คนและกว่า 73% สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพจนเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งการมีกิจกรรมทางกายที่เพิ่มขึ้นน้ำหนักและรอบเอวที่ลดลงรวมถึงการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีอย่างต่อเนื่องกรมอนามัยเชื่อมั่นว่าผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นพลังสำคัญในการขยายผลสู่ครอบครัวและชุมชนอันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง”
ความสำเร็จของโครงการในปีนี้อยู่ที่ 73% (นับจากจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการที่ปฏิบัติภารกิจครบทั้ง 12 สัปดาห์) โดยผู้เข้าร่วมโครงการได้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงเช่นมีก้าวเดินมากขึ้นในชีวิตประจำวันส่งผลให้น้ำหนักและรอบเอวลดลงพร้อมเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการมีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพอย่างยั่งยืนรวมถึงเกิดสังคมผู้ใส่ใจสุขภาพที่พร้อมส่งต่อสิ่งดีๆสู่คนรอบข้างตรงกับเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเปิดพลังแห่งอาหารเพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อทุกคนในวันนี้และในอนาคต



















