ธอส. ร่วมกับ สำนักงานประกันสังคม ลงนาม MOU โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี ช่วยเหลือผู้ประกันตนมีบ้านเป็นของตนเอง
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกับ สำนักงานประกันสังคม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) จัดทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี ให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 หรือ 40 ที่ต้องการซื้อ หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ผ่อนคงที่นาน 5 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 3,400 บาท เท่านั้น! ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนจากสำนักงานประกันสังคม ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป เพื่อนำมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หาก ธอส.ให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากความร่วมมือระหว่าง ธอส. และสำนักงานประกันสังคม ในปี 2565 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่ามีผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นจำนวนมาก และทำนิติกรรมเต็มกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ประกันตนมากกว่า 25,300 ราย สามารถเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีภาระในการผ่อนชำระเงินงวดในแต่ละเดือนลดลง เพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในส่วนอื่นได้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้สนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.4 ล้านครอบครัว ครั้งนี้ ธอส. จึงร่วมกับสำนักงานประกันสังคม โดยนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567” โดยได้รับเกียรติจากนายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนาม MOU ระหว่าง ธอส. และ สำนักงานประกันสังคม โดยได้จัดกรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี, ปีที่ 6 - 8 เท่ากับ MRR - 2.00% ต่อปี และปีที่ 9 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR - 0.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) ให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 หรือ 40 ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อหรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ภายใต้วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 3,400 บาท เท่านั้น! สำหรับวงเงินกู้ส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยผลิตภัณฑ์อื่นของธนาคารได้
“จากความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานภาครัฐในปี 2565 เป็นที่ประจักษ์ว่าโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนได้รับความสนใจจากผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับความต้องการดังกล่าวในครั้งนี้จึงขยายความช่วยเหลือไปยังผู้ประกันตนในมาตรา 39 และ 40 ด้วย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ที่ต้องการซื้อหรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ภายใต้วงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้ส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท เป็นต้นไป สามารถใช้ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นๆ ของธนาคารได้ ซึ่งคาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ประกันตนมีบ้านเป็นของตนเองเพิ่มขึ้นได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย” นายกมลภพ กล่าว
สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 หรือ 40 ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 ในครั้งนี้ จะต้องลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม ผ่านทาง Application SSO PLUS เพื่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน และลงลำดับคิวเพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 พร้อมนำเอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกัน มายื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หาก ธอส.ให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th
9752