(ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านภูมิสารสนเทศแห่งชาติ พ.ศ. 2566 – 2570
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ (กภช.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านภูมิสารสนเทศแห่งชาติ พ.ศ. 2566 -2570 [(ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ]
2. มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นกรอบทิศทางและแนวทางดำเนินงาน รวมทั้งใช้เป็นกรอบแนวทางจัดทำและเสนอคำของบประมาณของหน่วยงานตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผนปฏิบัติการฯ
3. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ กภช. ประสาน รวบรวม และกลั่นกรองโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวกับระบบภูมิสารสนเทศเสนอ กภช. และนำเสนอต่อสำนักงบประมาณ (สงป.) เพื่อประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณประจำปีต่อไป
4. ให้สำนักงานสภาการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ สงป. สนับสนุนโครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายของ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ และใช้เป็นแนวทางการจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามห้วงระยะการบังคับใช้ของแผนปฏิบัติการฯ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านภูมิสารสนเทศแห่งชาติ พ.ศ. 2566-2570 [(ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ] ที่ กภช. เสนอคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบในครั้งนี้ เป็นแผนที่ต่อเนื่องจากแผนแม่บทภูมิสารสนเทศแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564 [มีการแก้ไขชื่อจากแผนแม่บท เป็น (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดทำแผนระดับที่ 3] โดยมีวิสัยทัศน์ คือ ไทยมีระบบข้อมูลภูมิสารสนเทศกลางที่เอื้อต่อการนำไปใช้ประโยชน์และสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) การพัฒนาชั้นข้อมูลพื้นฐาน ด้านภูมิสารสนเทศของประเทศให้มีความพร้อม (2) พัฒนาระบบให้บริการทางภูมิสารสนเทศกลางและส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลภูมิสารสนเทศ (3) พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และกลไกการขับเคลื่อนนวัตกรรมภูมิสารสนเทศ และ (4) ขับเคลื่อนและส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจด้วยภูมิสารสนเทศเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นกรอบทิศทางและแนวทางดำเนินงานด้านภูมิสารสนเทศลดความซ้ำซ้อนและมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากระบบภูมิสารสนเทศร่วมกัน รวมทั้งใช้เป็นกรอบการจัดทำและเสนอคำของบประมาณของหน่วยงานตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผนปฏิบัติการดังกล่าว โดย (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ ฉบับนี้มีประเด็นการดำเนินการต่อเนื่องจากแผนแม่บทภูมิสารสนเทศแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2564 ที่เน้นการบูรณาการแผนที่ ภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายจากดาวเทียม และภูมิสารสนเทศอื่นๆ ของหน่วยงานภาครัฐในรูปแบบแผนที่ออนไลน์ รวมถึงการพัฒนาระบบสืบค้นและบริการภูมิสารสนเทศกลางของประเทศ และได้มีการเพิ่มเติมประเด็นการผลักดันให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงข้อมูลภูมิสารสนเทศตามแนวทางการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลต่อสาธารณะ โดยสามารถดาวน์โหลดและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์และต่อยอดในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ดีขึ้น ซึ่งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ แล้วเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ประกอบกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคมกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พิจารณาแล้วเห็นชอบด้วย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) มีความเห็นเพิ่มเติมบางประการ เช่น การเพิ่มเติมรายละเอียดสถานการณ์ปัจจุบันของค่าเป้าหมายในแต่ละตัวชี้วัดให้มีความครบถ้วน การสำรวจชุดข้อมูลที่ภาครัฐต้องการใช้งานข้อมูลจากภาคเอกชนและมีแนวทางการบูรณาการข้อมูลร่วมกับภาคเอกชน การปรับบทบาทภารกิจและระบบวิธีการทำงานของหน่วยงานที่มีอยู่เดิมเป็นลำดับแรกแทนการจัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่
2. (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ มีเป้าหมายเพื่อบริหารจัดการระบบข้อมูลภูมิสารสนเทศกลางของประเทศเพื่อให้การจัดทำและการใช้งานภูมิสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากระบบภูมิสารสนเทศกลางมิติต่างๆ ซึ่งแผนงาน/โครงการภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการดังกล่าว มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของประเทศหลายประการ เช่น การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานในการพิจารณากำหนดแนวเขตที่ดินในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและสามารถแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ [คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เรื่อง การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map)] การนำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะเรื่องฝุ่นละออง PM2.5 และจุดความร้อน (hotspots) ในพื้นที่ต่างๆ [คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 เรื่อง ขอรับจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567] ดังนั้น เพื่อให้เป็นการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลและการแก้ไขปัญหาของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็ว กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณากลั่นกรองโครงการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ อย่างรอบด้าน โดยให้ความสำคัญกับแผนงาน/โครงการที่ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลเป็นอันดับแรก
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) 12 พฤศจิกายน 2567
11347