: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
ทรัมป์ กล่าวว่า อังกฤษกำลัง 'ทำผิดพลาดครั้งใหญ่' กับการเก็บภาษีฟุ่มเฟือยจากผู้ผลิตน้ำมันในทะเลเหนือ
CNBC USA POLITICS : Sam Meredith @in/samuelmeredith @smeredith19
จุดสำคัญ
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้สหราชอาณาจักร 'เปิด' ทะเลเหนือ พร้อมกล่าวหารัฐบาลแรงงานของประเทศว่า 'ทำผิดพลาดครั้งใหญ่' กับนโยบายภาษีพลังงาน
ความคิดเห็นของเขาดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อรายงานเกี่ยวกับแผนการของบริษัท Apache ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯ ที่จะยุติการดำเนินงานทั้งหมดในทะเลเหนือภายในสิ้นปี 2029
พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นรัฐบาลของอังกฤษ กล่าวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่า จะเพิ่มภาษีพิเศษจากผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนือจาก 35% เป็น 38% และขยายวันสิ้นสุดนโยบายออกไป
A photograph taken on October 29, 2024 shows a general view of Trump International Golf Links and its sand dunes, in Balmedie, Aberdeenshire, Scotland as construction works are underway for a second golf course on the estate built on sand dunes.
Andy Buchanan | Afp | Getty Images
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเรียกร้องให้สหราชอาณาจักร 'เปิด' ทะเลเหนือ พร้อมกล่าวหารัฐบาลแรงงานของประเทศว่า ‘ทำผิดพลาดครั้งใหญ่’ กับนโยบายภาษีพลังงาน
ความคิดเห็นของเขามาเพื่อตอบสนองต่อรายงานเกี่ยวกับผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซAPA ของสหรัฐฯ หน่วยงาน Apache ของบริษัทมีแผนที่จะยุติการดำเนินงานในทะเลเหนือภายในสิ้นปี 2572
บริษัทที่มีฐานอยู่ในเท็กซัสกล่าวในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อปีที่แล้วว่า การผลิตต่อเนื่องในทะเลเหนือของอังกฤษกลายเป็นไม่คุ้มทุนเนื่องมาจากผลกระทบจากภาษีรายได้ก้อนโตของอังกฤษ ซึ่งเป็นนโยบายที่เรียกอย่างเป็นทางการว่าภาษีผลกำไรด้านพลังงานหรือ EPL
“สหราชอาณาจักรกำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เปิดทะเลเหนือ กำจัดกังหันลม!”ทรัมป์กล่าวบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social
พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นรัฐบาลของอังกฤษ กล่าวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่าจะเพิ่มภาษีพิเศษจากผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนือจาก 35% เป็น 38% และขยายวันที่สิ้นสุดนโยบายออกไปจนถึงเดือนมีนาคม 2573
เงินที่รวบรวมจากภาษีก้อนโตจะถูกนำไปใช้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของอังกฤษจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่าจะช่วยเสริมความมั่นคงด้านพลังงานและความเป็นอิสระด้านพลังงานของประเทศ
Britain’s Prime Minister Keir Starmer stands near a wind turbine during a visit to the RWE Brechfa Forest West Onshore Wind Farm in Pencader, south Wales on August 20, 2024.
Ben Birchall | Afp | Getty Images
CNBC ได้ติดต่อโฆษกของกระทรวงความมั่นคงด้านพลังงานและ Net Zero ของอังกฤษ เพื่อขอคำตอบเกี่ยวกับโพสต์โซเชียลมีเดียของทรัมป์
บริษัท Harbour Energyผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของอังกฤษในทะเลเหนือและบริษัท Shell ยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันของอังกฤษ ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ขณะที่ BP ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ ยังไม่สามารถตอบกลับได้ทันทีเมื่อได้รับการติดต่อจาก CNBC
ทะเลเหนือถือเป็นแหล่งพลังงานลมนอกชายฝั่งที่สม่ำเสมอที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษ และประเทศต่างๆ ในยุโรปหลายแห่งร่วมกับสหราชอาณาจักรก็ได้ให้คำมั่นที่จะเปลี่ยนพื้นที่ดังกล่าวให้กลายเป็น ‘โรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียว’ ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ภาคส่วนพลังงานลมนอกชายฝั่งซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ได้รับการขัดขวางจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
โฆษกของ Offshore Energies UK ซึ่งเป็นองค์กรการค้าพลังงานนอกชายฝั่งของอังกฤษ กล่าวว่าอังกฤษต้องการพลังงานผสมผสานที่หลากหลายจากทะเลเหนือ ซึ่งรวมถึงน้ำมัน ก๊าซ และพลังงานลมนอกชายฝั่ง
โฆษกของ Offshore Energies UK บอกกับ CNBC ทางอีเมลว่า “การผลิตพลังงานทั้งหมดในสหราชอาณาจักรอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยประเทศต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานประเภทน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้า สำหรับความต้องการพลังงานภายในประเทศเกือบ 40%”
“การดึงดูดการลงทุนจากแหล่งพลังงานต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของประเทศ และรักษาตำแหน่งงาน บริษัทต่างๆ และห่วงโซ่อุปทานของพวกเขาไว้ในสหราชอาณาจักร วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผู้บริโภคและจัดหาพลังงานที่ปลอดภัยและราคาไม่แพงคือการผลิตให้ได้มากที่สุดในสหราชอาณาจักร”พวกเขาเสริม
