TKC กางแผนธุรกิจปี 68 ตั้งธงรายได้โตไม่น้อยกว่า 20% ชูแผนการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก จาก Core Business - New Business - JV และ M&A โดยโฟกัสการขยายไปยังธุรกิจใหม่ และความร่วมมือกับพันธมิตร มุ่งหา S-Curve รับปัจจัยสนับสนุนจากโอกาสในงานภาครัฐและเอกชน ที่ยังคงลงทุนด้านดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่น รวมถึง 7 นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนจากภาครัฐที่ประกาศออกมา
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% วางกลยุทธ์หลักในการสร้างรายได้และการเติบโตที่ยั่งยืนผ่าน 3 แกนธุรกิจหลัก ประกอบด้วย Core Business - New Business - JV และ M&A โดยธุรกิจหลัก ยังคงสร้างความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญงานวางระบบ
ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน พร้อมทั้งการขยายเข้าไปในธุรกิจใหม่ๆ และการหาพันธมิตรในรูปแบบ JV และ M&A เพื่อเร่งแผนการโตอย่างก้าวกระโดดได้รับปัจจัยสนับสนุนจากโอกาสในงานภาครัฐและเอกชนที่ยังคงลงทุนในดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่น รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนจากภาครัฐที่ประกาศออกมา 7 นโยบาย ซึ่งตรงกับแผนธุรกิจของ TKC ที่มีความพร้อมในการให้บริการอยู่แล้ว
นโยบายที่ 1 คือ การยกระดับการเกษตรแบบดั้งเดิมสู่เกษตรทันสมัย แนวคิด ‘ตลาดนำนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ ซึ่ง TKC เรามีโซลูชันด้านทำ Smart Farm มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ปี ซึ่ง TKC ทำร่วมกับมูลนิธิรัฐภูมิ ที่จ.ลำปาง
นโยบายภาครัฐที่ 2 การกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรากฐาน สนับสนุนรัฐบาลดิจิทัล พัฒนาโซลูชัน Data Center เพื่อบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง TKC ทำอยู่แล้วในเรื่องของ Data Center ทำระบบคลาวด์ให้กับโครงการใหญ่ๆ ทั้งของกระทรวงพาณิชย์, NT และโรงพยาบาลภาครัฐ เป็นต้น จากการที่ภาครัฐสนับสนุนให้มี Hyperscale รายใหญ่ระดับโลก ซึ่งให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยหลายราย มูลค่าการลงทุนหลายแสนล้านบาท TKC เล็งเห็นโอกาสในการเข้าไปเป็นพันธมิตร บริษัทอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมกับพันธมิตรต่างประเทศในการพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับการเป็น Local Support และมองเป้าหมายในการเป็น Partnership ระดับสูงสุด
นโยบายภาครัฐที่ 3 เพิ่มการเข้าถึงระบบสุขภาพอย่างทั่วถึง บริการสุขภาพที่สะดวกและเท่าเทียม โดย TKC มีโซลูชันด้าน Smart Hospital ที่เราทำเกี่ยวกับ Hybrid Cloud ระบบ Block Chain ระบบเกี่ยวกับ AI ต่างๆ รวมถึงระบบ Telehealth ซึ่งสามารถตอบโจทย์การให้บริการด้านสุขภาพที่สะดวกและเท่าเทียมตามนโยบายภาครัฐ
นโยบายภาครัฐที่ 4 ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว พัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานหลัก TKC มีโซลูชันที่ทำแล้วเกี่ยวกับ Green Solution ด้าน Solar Cell, EV Charger และการคำนวณ Carbon Credit ปัจจุบัน TKC ได้เริ่มให้บริการติดตั้งระบบ Solar Cell รวมถึง EV Charger และ Platform ในการบริหารจัดการ Fleet และคำนวณ Carbon Footprint แล้ว ในปี 2568 TKC จะเริ่มมีการบันทึกรายได้ที่มาจากสายงานด้าน Green Solution
นโยบายภาครัฐที่ 5 ลดช่องว่างด้านการศึกษาในชุมชนห่างไกล ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต โดย TKC ได้มีการทำ TKC Smart Learning Platform และระบบ LMS (Learning Management System) ในการ Host Content ด้านการศึกษามากถึง 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
นโยบายภาครัฐที่ 6 การป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ แพลตฟอร์มสืบสวนเพื่อความปลอดภัยดิจิทัล TKC ได้ร่วมทำโซลูชันด้าน TKC Cyber Security Investigation Platform กับภาครัฐและเอกชน มาหลายปี มีการทำโครงการอบรมด้าน Cyber Security Training phase 1 และ phase 2 ร่วมกับ สกมช. และ NT ในการอบรมบุคลากรด้าน Cyber ให้กับภาครัฐและเอกชนมากกว่า 4,000 คน อีกทั้ง TKC ยังได้ส่งมอบโครงการระบบ Platform แจ้งความ Online ร่วมกับ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์แล้ว
และท้ายสุด นโยบายภาครัฐที่ 7 เพิ่มความสะดวกในธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ปลอดภัย ประหยัดและรองรับการใช้งานทุกที่ทุกเวลา ซึ่ง TKC ได้มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรในการพัฒนา และปัจจุบันพร้อมให้บริการ TKC Digital Document Platform
“ในปี 2568 Core Business, New Business, JV และ M&A จะเป็นกลไกในการหนุนทั้งรายได้และกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ในไตรมาส 4/2566 สัดส่วน 24.90% ได้มีการรับรู้กำไรตามสัดส่วนการลงทุนเข้ามาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจาก 7 นโยบายของภาครัฐที่กล่าวมา จะสนับสนุนรายได้ให้กับ TKC ในปีหน้าในการเติบโตไม่น้อยกว่า 20%”นายสยาม กล่าว