ทีทีบี แนะรับมือความผันผวนของเงินตราต่างประเทศ ด้วยบริการ Local Currency Solutions พร้อมเพิ่มอีก 3 สกุลเงิน ครบครันด้วยโซลูชันบริหารความเสี่ยง สำหรับผู้นำเข้า-ส่งออก
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี แนะผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก รับมือความผันผวนของเงินตราต่างประเทศ ด้วยบริการจัดการธุรกิจผ่านสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Solutions) โดยตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2567 ทางธนาคารได้เพิ่มสกุลเงินท้องถิ่นอีก 3 สกุลเงิน ได้แก่ เวียดนามดอง เกาหลีวอน และฟิลิปปินส์เปโซ ซึ่งครอบคลุม สกุลเงินท้องถิ่นของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยกว่า 90% พร้อมด้วยโซลูชันบริหารความเสี่ยงที่ครบครันสำหรับผู้นำเข้า-ส่งออก
นางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 การนำเข้าและส่งออกของไทยมีสัดส่วนมากถึง 111.80% ของ GDP ซึ่งเป็นการซื้อขายกับประเทศคู่ค้าในภูมิภาคเอเชียสูงถึง 36% เมื่อเทียบกับการซื้อขายกับสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสัดส่วนเพียง 10.80% อย่างไรก็ตามสัดส่วนการใช้สกุลดอลลาร์สหรัฐในการชำระเงินระหว่างประเทศยังมีสัดส่วนที่สูงถึง 77.4% ซึ่งความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ผ่านมาทำให้ผู้ประกอบการเผชิญกับการควบคุมต้นทุนได้ยาก และส่งผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น ทีทีบีจึงแนะนำให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนมาใช้ Local Currency Solutions เพื่อบริหารความเสี่ยงต้นทุนที่เกิดจากค่าเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในปี 2566 สกุลเงินหยวนจีนและสกุลเงินท้องถิ่นอื่นๆ มีการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินบาทหรือปรับตัวอยู่ไม่เกิน 3% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวสูงถึง 9% นอกจากนี้สถานการณ์ต่างๆ ของโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ภาวะสงคราม ภัยธรรมชาติ การเมืองและการค้าโลก ล้วนส่งผลต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ
“ทีทีบีมีโซลูชันเพื่อให้ผู้ประกอบการพร้อมรับมือกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีการคาดเดาได้ยาก ครอบคลุมทั้งบริการ Local Currency Solutions และบริการการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าขายระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดระบบนิเวศใหม่ของอัตราแลกเปลี่ยน (New FX Ecosystem) ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำเข้า-ส่งออกจะต้องรับมือกับความผันผวนเงินตราต่างประเทศให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางสาวบุษรัตน์ กล่าว
ธนาคารมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันบริหารความเสี่ยงที่สามารถตอบโจทย์ผู้นำเข้า-ส่งออก ด้วยบริการ Local Currency Solutions เพื่อช่วยผู้ประกอบการบริหารจัดการธุรกิจด้วยสกุลเงินท้องถิ่นซึ่งครอบคลุมเงินสกุลท้องถิ่นของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยกว่า 90% อาทิ สกุลหยวนจีน อินเดียรูปี มาเลเซียริงกิต โดยมี 3 สกุลเงินใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ เวียดนามดอง เกาหลีวอน และ ฟิลิปปินส์เปโซ โดยทีทีบี ถือเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็น
● “Yuan Pro Rata Forward” เพื่อลดความผันผวน และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันความเสี่ยงจากบริการรับจองอัตราแลกเปลี่ยนด้วยสกุลหยวนจีน โดยทีทีบี เป็นธนาคารแรกที่ให้บริการ
● บัญชีสำหรับบริหารหลายสกุลเงิน (ttb multi-currency account) สะดวก คล่องตัว ด้วยการบริหารจัดการเงินสกุลหลักและสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยรวม 11 สกุลเงิน เพียงใช้บัญชีเดียวสามารถใช้ซื้อ ขาย รับ จ่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สะดวกมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้ควบคู่ไปกับธนาคารดิจิทัลอย่าง ทีทีบี บิสสิเนสวัน (ttb business one)
● สามารถเบิกใช้วงเงินกู้ Trade Finance ได้ทั้งสกุลเงินหลักและท้องถิ่นได้ถึง 13 สกุลเงิน รวมถึงสกุลหยวนจีน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินกับคู่ค้า
ทีทีบีมุ่งหวังว่า Local Currency Solutions จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนธุรกิจและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจลง รวมถึงเพิ่มโอกาสขยายตลาดไปยังเป้าหมายใหม่และเจรจาการค้าได้ง่ายขึ้น โดยธนาคารยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการและโซลูชันที่มุ่งตอบโจทย์ผู้นำเข้า-ส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยงในการทำการค้าระหว่างประเทศ พร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์ ก้าวผ่านความท้าทายต่างๆ จนประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ สนใจบริการ Local Currency Solutions และบริการด้านการค้าระหว่างประเทศอื่นๆ สามารถสอบถามรายละเอียดและขอคำปรึกษาเรื่องการบริหารความเสี่ยงได้ที่ เจ้าหน้าที่การตลาดธุรกิจตลาดเงินของท่าน หรือติดต่อ 0 2676 8008 หรือ 0 2676 8188 สำหรับลูกค้าธุรกิจ และติดต่อ 0 2676 8084 หรือ 0 2676 8088 สำหรับลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี
5318