โบรกฯ มอง AURA Outperform ราคาหุ้นยังไม่สอดคล้องกับราคาทองคำและกำไรสูงสุดใหม่ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 20.1 บาท
หนึ่งในธุรกิจที่มาแรงในปีนี้ คงต้องยกให้เป็นปีทอง ของธุรกิจทอง อย่าง “บมจ. ออโรร่า ดีไซน์” หรือ AURA จากความเคลื่อนไหวราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และกำไรของบริษัทที่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง ด้านบทวิเคราะห์ KSEC มีมุมมองต่อหุ้น AURA ราคายังไม่สอดคล้องกับปัจจัยบวกดังกล่าว จึงปรับราคาเป้าหมายปี 2568 เพิ่มขึ้น 8.8% จาก 18.48 บาท เป็น 20.1 บาท ตอกย้ำความสำเร็จในการกระจายธุรกิจจากค้าปลีก เครื่องประดับทองคำและเครื่องประดับที่มีกำไรสูง ไปสู่ธุรกิจสินเชื่อ (ธุรกิจขายฝากทองคำ ภายใต้แบรนด์ทองมาเงินไป) อีกทั้ง ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยนโยบายและวัฏจักรขาลงของอัตราดอกเบี้ย
โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KSEC) ระบุในบทวิเคราะห์ (เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 67) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น AURA ในปีนี้ (YTD) ราคาหุ้นที่ต่ำกว่าตลาดของ AURA สวนทางกับผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมา รายได้และกำไรสุทธิใน 9M24 เติบโต 8.1% YoY และ 38.5% YoY ตามลำดับ ขณะที่ ROE ใน 9M24 อยู่ที่ 13.7% เพิ่มขึ้นจาก 10.6% ใน 9M23 ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PER ปี 2024 ที่ 17.7 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมา -2SD
พร้อมประเมินแนวโน้มการเติบโต จากผลการดำเนินงานในอดีตและแนวโน้มทางเศรษฐกิจ จึงคาดว่าราคาทองคำจะยังคงมีทิศทางปรับขึ้น แม้ว่าจะชะลอตัวลงบ้าง โดยเชื่อว่ากำไรขั้นต้นของ AURA ในปัจจุบันที่ประมาณ 10% +/- จะยังคงยั่งยืนจากความต้องการในการขายคืนทองคำ (การรับซื้อทองคำของบริษัทฯ) ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการเติบโตจากธุรกิจขายฝากทองคำ และการเติบโตของยอดขายกลุ่ม High Margin Products
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ของ AURA ล่าสุด ช่วยบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความเพียงพอของเงินทุนในบริษัท ขณะเดียวกันแผนการแยกธุรกิจค้าปลีกและสินเชื่อจะช่วยปลดล็อกศักยภาพในการระดมทุนและเร่งแผนการเติบโต
จึงประเมินมูลค่าหุ้น AURA ยืนยันคำแนะนำ Outperform โดยตั้งเป้าราคาหุ้นสิ้นปี 2025 ที่ 20.1 บาท ซึ่งเป็นการปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 8.8% จากเดิมที่ 18.48 บาท ปัจจัยที่คาดว่าจะทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ 1) การคาดการณ์การเติบโตที่ดีจากการบริหารจัดการในอีก 3 ปีข้างหน้า 2) การตัดสินใจในอุตสาหกรรมที่จะปรับขึ้นค่ากำเหน็จ 3) ความสำเร็จของบริษัทในการปลดล็อกศักยภาพในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจขายฝากทองที่มีความเติบโต
โดยมีมุมมองหุ้น AURA อยู่ในตำแหน่งการแข่งขันที่เหนือกว่าที่จะขยายธุรกิจขายฝากทองคำได้หลายประการ ประการแรก Funding Cost ของ AURA มีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าคู่แข่งโดยตรง รวมถึงร้านทองและร้านจำนำอื่นๆ ประการที่สอง อัตราการเติบโตของสินเชื่อจากธนาคารและสถาบันการเงินนอกธนาคารที่ต่ำ บ่งชี้ถึงการคุมเข้มเครดิต ซึ่งทำให้ผู้บริโภคต้องหาทางเลือกการเงินอื่นๆ ในที่สุด ต้นทุนการเงินของ AURA จะมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น เมื่อ AURA วางแผนที่จะออก bond ครั้งแรก ภายใต้การจัดอันดับเครดิต BBB จาก TRIS นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของนโยบายการเงินล่าสุด และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต จะทำให้ AURA มีความยืดหยุ่นในการขยายพอร์ตสินเชื่อทองคำได้มากขึ้น
ในขณะเดียวกัน AURA กำลังดำเนินการกระจายเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกกลุ่ม High Margin Products เพิ่มเติมผ่านช่องทางการขายหลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม การมีส่วนร่วมในรายได้และกำไรขั้นต้นจากกลุ่มธุรกิจนี้ยังคงไม่โดดเด่นนัก ในการประชุมกับนักลงทุนของ AURA เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ผู้บริหารได้ระบุว่ากำลังวางกลยุทธ์เพื่อเพิ่มสัดส่วนจากธุรกิจนี้ในอนาคตอันใกล้
ที่มาบทวิเคราะห์ : https://www.auroradesign.co.th/storage/download/analyst-report/2024/20241129-aura-kss-en.pdf
12244