รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 และกลไกการบริหารจัดการ
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอดังนี้
1. รับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ของสำนักงาน ก.พ.ร. โดยจังหวัดเป้าหมายที่สามารถกำหนดให้มีการประเมินตัวชี้วัดค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตามตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกัน (Joint KPIs) ประเด็นที่ 5 การลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ได้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวนทั้งสิ้น 39 จังหวัด และจังหวัดเป้าหมายที่ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะนำมากำหนดเป็นค่าเป้าหมายเนื่องจากมีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ1 ในระหว่างปี หรือยังไม่มีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ซึ่งจะนำมากำหนดให้มีการประเมินตัวชี้วัดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 15 จังหวัด
2. เห็นชอบข้อเสนอแนะโดยมอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษดำเนินการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเพิ่มเติม สำหรับจังหวัดที่ยังไม่มีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้แล้วเสร็จในปึงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดค่าเป้าหมายสำหรับใช้ประเมินในปีถัดไป
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
ก.พ.ร. รายงานว่า สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ก.พ.ร. ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (19 ธันวาคม 2566) ซึ่ง ก.พ.ร. ในการประชุม ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ได้พิจารณาเกี่ยวกับการกำหนดให้การลดหรือการควบคุมปริมาณการปล่อยมลพิษทางอากาศ (PM2.5) เป็นตัวชี้วัด (KPIs) ที่สำคัญของแต่ละจังหวัด โดยนำมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 ของ ทส. ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ (19 ธันวาคม 2566) มาเป็นกรอบในการพิจารณา สรุปได้ ดังนี้
1. จังหวัดเป้าหมายตามมาตรการฯ ที่สามารถกำหนดให้มีการประเมินตัวชี้วัดค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตาม Joint KPIs ภายใต้ Agenda ประเด็นที่ 5 การลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 39 จังหวัด โดยแบ่งเป็น
1.1 จังหวัดเป้าหมายที่ดำเนินการกำหนดเป็นตัวชี้วัดอยู่แล้ว2 จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน ตาก พิษณุโลก นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม
1.2 จังหวัดเป้าหมายที่จะกำหนดให้มีตัวชี้วัดในการประเมินเพิ่มเติม3 จำนวน 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา เลย หนองคาย อุบลราชธานี นครพนม เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี ลพบุรี บุรีรัมย์ มุกดาหาร สกลนคร และอุดรธานี
2. จังหวัดเป้าหมายที่จะนำมากำหนดให้มีการประเมินตัวชี้วัดดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 15 จังหวัด เนื่องจากมีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในระหว่างปี 2567 ทำให้มีข้อมูลไม่ครบรอบปีที่จะนำมาใช้ในการประเมินตามตัวชี้วัดค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) หรือยังไม่มีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ดังนี้
2.1 จังหวัดเป้าหมายที่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแล้วแต่ข้อมูลยังไม่เพียงพอ จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ สิงห์บุรี นครนายก บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ และศรีสะเกษ
2.2 จังหวัดเป้าหมายที่ยังไม่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท อ่างทอง เพชรบุรี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และหนองบัวลำภู
3. ข้อเสนอแนะให้กรมควบคุมมลพิษติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศสำหรับจังหวัดที่ยังไม่มีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดค่าเป้าหมายสำหรับใช้ประเมินในปีถัดไป
4. ประโยชน์ของการจัดการเพื่อดูแลปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดจะช่วยลดต้นทุนการสร้างความเสียหายต่อคุณภาพดิน น้ำ และการเติบโตของสิ่งมีชีวิตในป่า รวมทั้งความหลากหลายด้านชีวภาพ ซึ่งสนับสนุนการขับเคลื่อนเป้าหมาย IGNITE THAILAND4 ของรัฐบาลในวิสัยทัศน์ที่ 3 ศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub) ในการยกระดับเกษตรกรรมส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีรายได้มากขึ้น 3-4 เท่า พร้อมที่จะเข้าสู่การเป็นครัวของโลก รวมทั้งจะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากปัญหาฝุ่น PM2.5 เช่น ค่าเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยวที่เกิดจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย ค่าเสียโอกาสที่เกิดจากปัญหาสุขภาพจากการรักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ หรือค่าใช้จ่ายในการป้องกันมลพิษและการสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งอาจสร้างความเสียหายโดยรวมถึง 5,500-10,000 ล้านบาทต่อปี
_______________
1 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ คือ อุปกรณ์สำหรับตรวจวัดและวิเคราะห์สภาพและคุณภาพอากาศที่สามารถตรวจวัดมลพิษที่ปนเปื้อนในอากาศได้ตลอดทุกช่วงเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
2 สำนักงาน ก.พ.ร. แจ้งว่า จังหวัดดังกล่าวได้กำหนดให้ตัวชี้วัดค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เป็นตัวชี้วัดระดับจังหวัดเพื่อใช้ในการประเมินตามกรอบแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อยู่แล้ว
3 สำนักงาน ก.พ.ร. แจ้งว่า จังหวัดดังกล่าวมีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอยู่แล้วแต่ที่ผ่านมายังไม่ได้กำหนดเป็นตัวชี้วัดระดับจังหวัดเพื่อใช้ในการประเมินตามกรอบแนวทางการประเมินส่วนราชการฯ เนื่องจากสำนักงาน ก.พ.ร. จะพิจารณากำหนดตัวชี้วัดในจังหวัดที่มีแนวโน้มสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 สูงมาก่อนเป็นลำดับแรก
4 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายกรัฐมนตรีประกาศวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND: จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนจำนวน 8 วิสัยทัศน์ (1) ศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว (2) ศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (3) ศูนย์กลางอาหาร (4) ศูนย์กลางการบิน (5) ศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาค (6) ศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (7) ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลและ (8) ศูนย์กลางทางการเงิน
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 25 มิถุนายน 2567
6796