หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
BLS
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
SET "Back and forth"
          เมื่อวานหุ้นพลังงาน และ บูลชิพอื่น เขียวยกแผง นำโดย PTT PTTEP TOP PTTGC CPALL KBANK KTC TCAP ส่วนหุ้นอื่นที่บวกดีกว่าตลาด โรงกลั่น SPRC ESSO / JMART FN  
          วันนี้ คาดหุ้นไทย ขึ้นลงไปไหนไม่ไกล กรอบ 1,625-1,639 จุด           
          ระยะสัปดาห์: หลังจากการพักฐาน เสร็จสิ้นลงในสัปดาห์นี้ หุ้นไทยจะทะยานขึ้น หลังวันเลือกตั้ง คาดต่างชาติ และกองทุนในประเทศเริ่มซื้อคืน เมื่อเกิดความชัดเจนการเมืองในประเทศ  บวกกับช่วงเวลา Window dressing สัปดาห์หน้า และหุ้นไทยอีกจำนวนมาก รอขึ้น XD  Covered short ส่วนปัจจัยแวดล้อมต่างประเทศให้น้ำหนักกับ ผลการประชุมเฟด ที่จะกลับมาดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย  หนุนบรรยากาศลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลก   
          
What to watch: 
          (+) ข่าวบวกหุ้นพลังงาน กลุ่มโอเปกประกาศยกเลิกการประชุมในวันที่ 17-18 เม.ย. นับเป็นการส่งสัญญาณว่า โอเปกและประเทศพันธมิตรยังคงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปจนกว่าจะถึงการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 25-26 มิ.ย. 
          MS คาดราคาน้ำมันดิบรอบนี้ เป็นการปรับขึ้นมาสอดรับกับปัจจัยพื้นฐาน และ มองว่ามีโอกาสได้เห็นน้ำมันขึ้นแตะ ระดับ US$75/ บาร์เรล อีกครั้ง 
          (+) หลังเลือกตั้งภายใน 20 วัน เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้น และเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่นักลงทุนจะซื้อหุ้นภายในสัปดาห์นี้ เพื่อไปรอทำกำไร หลังวันเลือกตั้ง
          (+) คาดผลประชุมเฟดวันนี้ จะ ยุติการปรับลดงบดุล ในเดือน ตค.นี้ (ยุติการดึงสภาพคล่องออกจากตลาด), MBS amortization เริ่มเดือน ตค.จะถูกนำไปซื้อ พันธบัตรสหรัฐฯรุ่นใหม่, ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯลง, คงดอกเบี้ยที่ 2.25-2.5%  
          (+) คาด กนง. (ไทย) คงดอกเบี้ย 1.75% แม้ว่าเสียงสนับสนุนให้คงดอกเบี้ยจะไม่เป็นเอกฉันท์ แต่คาดไม่มีผลต่อ จิดวิทยาการลงทุน วันนี้  
          (0/-) กระแสข่าวการเจรจาการค้า ระหว่าง จีน สหรัฐฯ เลื่อน เริ่มกลับมารบกวนตลาดอีกครั้ง / แต่เราคงคาดว่าจะมีผลต่อหุ้นไทยจำกัด   
 
หุ้นแนะนำ 
          PTTEP commodity play ตามที่เราแนะนำธีมลงทุนไว้ในรายงาน Weekly 
          KTC เล่นต่อจากเมื่อวาน ครม.เห็นชอบขยาย สินเชื่อ พิโกไฟแนนซ์ เป็น 1 แสนบาท / ราย เก็บดอกเบี้ยสูงสุด 28%
 
รายงานวันนี้  
 
MS: The Oil Manual: Repeat of 2018? Brent to Rally to $75 by 3Q 
          ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นทะลุสมมุติฐานที่ $65 ซึ่ง MS มองว่าการปรับขึ้นนั้นเป็นเพื่อปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น เพราะภาวะ oversupply ใน 4Q18 ได้กลับมาสมดุลแล้ว และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว  
          MS มองว่าภาวะน้ำมันจะกลับมาเป็น undersupply ใน 2Q จนถึง 3Q และ supply ยังมี downside risk จากอิหร่านและเวเนซูเอล่า  
          MS คาดน้ำมันมีโอกาสแรลลี่ขึ้นได้ถึง $75 
 
Thai Market Strategy: Short term upsides for SET from favorable election outcome
          สำหรับการเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้ เรามองว่าหากสามาถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างราบรื่น คาดตลาดจะตอบรับเชิงบวก (ขึ้นได้ราว 5-7%) อย่างไรก็ดีหากไม่ราบรื่นคาดผลลบจะไม่มากเพราะความเสี่ยงได้สะท้อนในตลาดไประดับหนึ่งแล้ว (คาดลบ 1-3%) ธีม 2Q19 เราแนะให้เล่น 1) กลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์หลังการเลือกตั้งเรายังคงมองว่าเป็น ค้าปลีก การเงิน นิคม  2) กลุ่มอาหาร CPF 
          สำหรับเปาหมายดัชนีในปีนี้เรายังมองที่ 1738 (อิง PE 15.8 เท่า) แต่ยังมี downside จากการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงาน และคาวมเสี่ยงเศรษฐกิจโลก ดังนั้นเรามองกลยุทธ์การลงทุนว่า หากหุ้นขึ้นหลังการเลือกตั้ง แนะขายล๊อคกำไรเมื่อหุ้นวิ่งเข้าใกล้เปาหมายดัชนีของเรา  
 
FOOD: Higher El Ni-o probability--good news for meat prices 
          Climate Prediction Center มีการปรับโอกาสในการเกิด El Ni-o ขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.-พ.ย. ทำให้อากาศในช่วง เม.ย.-พ.ค. ร้อนกว่าปกติ และโดยรวมใน 1H19 จะทำให้อากาศในฝั่งเอเชียแห้ง และในฝั่ง US ชื้นขึ้น เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจปศุสัตว์ จากอุปทานที่จะหายไปจากตลาดตามประเด็นดังกล่าว หนุนให้ราคาหมูและไก่ยืนระดับได้ อีกทั้งยังมีปัจจัยโรคระบาดของไข้หวัดหมูแอฟริกัน ล่าสุดเราได้มีการเช็คราคาหมูของเวียดนามพบว่าเริ่มมีการฟื้นตัวกลับมาในช่วงเดือน ก.พ. เรายังคงชอบ CPF ที่สุดในกลุ่ม และแนะนำ ซื้อเก็งกำไร TFG และ GFPT 
 
HANA ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
          ผู้บริหารมีมุมมองลบต่อการเติบโตของบริษัทในปี 2019 อีกทั้งยังคาดว่ายอดขายสินค้าหลักของบริษัทจะลดลงต่อเนื่อง YoY นอกจากนี้ลูกค้าของบริษัทหลายเจ้าได้มีการปรับลดการคาดการกำไรลง และลดสินค้าคงคลังเพื่อลดความเสี่ยงในความไม่แน่นอนของตลาด  ทั้งนี้เรามองว่าอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะปรับตัวลดลงจากการใช้กำลังการผลิตที่น้อยลงจากการลดลงของยอดขาย และการปรับลดสินค้าคงคลัง เราไม่เห็นปัจจัยบวกใดๆที่จะหนุนราคาหุ้นได้ในระยะสั้น อีกทั้งเรามีความกังวลต่อผลประกอบการในปี 2019 ของบริษัท ซึ่งจะโดนกดดันจากความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาท และการชะลอตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ smartphone และ สินค้า PC  
 
BGRIM ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ 
          นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นกลางต่อแนวโน้มการขยายธุรกิจในอนาคต แต่ยังมีความกังวลต่อปริมาณลูกค้าอุตสาหกรรมที่จะมาทดแทนการรับซื้อไฟฟาของ EGAT ที่ลดลงหลังการต่ออายุ SPP ในอนาคต ทั้งนี้เรามองว่า BGRIM ได้ผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้ว ในไตรมาส 4Q18 ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการของ BGRIM น่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง จากอัตรากำไรของโรงไฟฟา SPP ที่ฟื้นตัวและกำลังผลิตที่ทยอย COD เรายังคงชอบ BGRIM (ซื้อ, 35 บาท) ที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟา SPP ทั้งนี้เรายังไม่ได้รวม SPP1 เข้าไว้ในประมาณการและราคาเป้าหมาย 
 
PTTEP การเริ่มพัฒนาโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ประเทศแอลจีเรีย  
          PTTEP บรรลุข้อตกลงเริ่มพัฒนาโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ประเทศแอลจีเรีย โครงการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วงต้นปี 2021 ด้วยกำลังการผลิต ~10,000-13,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมทั้งมีแผนระยะที่ 2 เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตเป็น 50,000-60,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2025  เรามีมุมมองเชิงบวกต่อข่าวดังกล่าว เนื่องจากจะทำให้อายุปริมาณสำรองปิโตรเลียมในปี 2019 ของบริษัทเพิ่มขึ้น ~2-3 เดือน ทั้งนี้ข่าวนี้น่าจะเป็น positive sentiment ต่อราคาหุ้น เนื่องจากเป็นการยืนยันความสามารถของ PTTEP ในการเร่งพัฒนาโครงการตามแผน รวมทั้งมีอัพไซด์จากการพัฒนาโครงการระยะที่ 2 และ M&A เพิ่มเติมในอนาคต เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2019 ที่ 157 บาท
 
หุ้นมีข่าว  
          (*/+) PTTEP  ปตท.สผ.เผยรัฐบาลแอลจีเรียอนุมัติแผนพัฒนาโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซแล้ว ตั้งเปาผลิตน้ำมันดิบได้ระยะแรก 1-1.3 หมื่นบาร์เรล/วัน ในปี 2564 ก่อนเจาะหลุมเพิ่มตั้งเปาผลิตน้ำมันขยับเพิ่มขึ้นเป็น 5-6 หมื่นบาร์เรล/วัน ในปี 2568 (ที่มา ผู้จัดการ) 
          ส่วนข่าวประท้วงใน แอลจีเรีย จากผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนได้ทำการ ประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีอับเดลาซิส บูเตฟลิกาในวันนี้ เป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากที่เขาได้ปกครองประเทศมานาน 20 ปี คาดยังไม่มีผลต่อ ข้อตกลงระหว่าง PTTEP กับ รัฐบาลแอลจีเรีย ด้วยแผนพัฒนานี้เป็นเรื่องรยะยาว ยังไม่มีผลต่อ Valuation ณ.ปัจจุบัน  
          (+) KTC  ครม.ไฟเขียวยกเครื่องเกณฑ์ปล่อยกู้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ขยับปล่อยกู้ได้สูงสุด 1 แสนบาทต่อราย พร้อมกดดอกเบี้ยเหลือ 28% ต่อปี เอาใจผู้มีรายได้น้อย มั่นใจไม่กระทบปัญหาหนี้ครัวเรือน (ที่มา ไทยโพสต์) 
          (0) BTS  ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกประเภทใช้บริการรถไฟฟา BTS ได้แล้วทุกสถานี (ที่มา โพสต์ทูเดย์) 
          (*) บลูมเบิร์กรายงาน โดยอ้างแหล่งข่าวว่า ผู้แทนเจรจาการค้าของสหรัฐบางคนได้แสดงความกังวลว่า จีนกำลังบ่ายเบี่ยงที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องทางการค้าของสหรัฐ  
          ด้านหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะเจรจาการค้าของสหรัฐและจีนเตรียมจัดการเจรจารอบใหม่ในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทางยุติความขัดแย้งทางการค้า 
          โดย รายงานระบุว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้าเพื่อเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ขณะที่นายหลิว เหอ และคณะจะเดินทางมายังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์แรกของเดือนเม.ย.เพื่อหารือกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐ (ที่มา ASPEN) 
          
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1630.09 (+0.77%) มูลค่าการซื้อขาย 3.6 หมื่นล้านบาท 
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,625 แนวต้าน 1,640 / SET100 รับ 2,380 ต้าน 2,400 BSET100 รับ 10.40 ต้าน 10.55 / BMSCITH รับ 12.30 ต้าน 12.45 
 
Topic: "Downside risk & Fund flow"
 
กลยุทธ์เทคนิค:    
          เมื่อวานพูดถึงการประเมินความเสี่ยงโดยใช้เงินปันผล (Dividend yield) ของตลาด หากเงินปันผลสูงจะสามารถลดความเสี่ยงของการปรับตัวลงได้ วันนี้จะมามองด้านกระแสเงินลงทุน Fund flow ปัจจุบันพบว่า US Dollar อ่อนค่าลงทดสอบแนวรับสำคัญ 96 กรณีหลุดจะทำให้โครงสร้างระยะกลางเปลี่ยนเป็นขาลง ขณะที่เฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากขึ้นจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีก หนุนตลาดหุ้นเกิดใหม่และสินทรัพย์เสี่ยงให้ปรับตัวขึ้น 
 
มุมมองตลาด: 
          เงินปันผลของตลาดที่สูงกว่า 3.20% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ส่งสัญญาณอ่อนค่าส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ จับตาผลการเลือกตั้งเหตุการณ์ในอดีตชี้ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นได้ดีหลังเลือกตั้ง
 
วิธีการเลือกหุ้น:  
          แนะนำหุ้นที่มีโครงสร้างแข็งแกร่งส่งสัญญาณฟื้นตัวจากแนวรับและใช้สัญญาณเทคนิคช่วยจับจังหวะการซื้อขาย 
          Review port: TOP, GLOBAL, SAWAD (signal recovery) 
          Bear signal: STA, PSL, BEM, DTAC (Break down 5-days EMA) 
          Portfolio: BCH, KTC, SAWAD, PLANB, MEGA 
 
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. +662-618-1334 
Track with Technical 
 
          TOP 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 69.00 
          ต้าน 74.00 
          เหตุผล ส่งสัญญาณฟื้นตัวจากฐานต่ำ Lower band หนุนด้วยการกลับตัวระยะสั้นจาก Stochastic 
 
          GLOBAL 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 17.20  
          ต้าน 18.50-19.00  
          เหตุผล ชาร์ตรายสัปดาห์บ่งชี้การฟื้นตัวจากแนวรับสำคัญ 17 บ. ยืนยันรูปแบบขาขึ้นระยะยาว 
 
          SAWAD 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 52.00
          ต้าน 58.00 
          เหตุผล ปรับตัวขึ้นได้ตามคาดปัจจุบันราคาเข้าใกล้จุดต้านสำคัญ 54 หนุนด้วยวอลุ่มสะสม OBV เพิ่มขึ้น  โอกาสทะลุผ่านแนวต้านเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น 
 
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!