ASIMAR โค้งแรก กำไรพุ่งกว่า 50%ปี 67 สดใส ดีมานด์ต่อเรือ - ซ่อมเรือ สูง ปักหมุดรายได้โต 50%
“บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ หรือ ASIMAR” งบโค้งแรก กำไรแกร่ง อยู่ที่ 6.41 ลบ. โต 50.47% จากปีก่อน มีรายได้รวม 170.93 ลบ. เพิ่มขึ้น 17.58% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 โดยรายได้ซ่อมเรือจากลูกค้าเอกชนเพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้โครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ จำนวน 30.99 ลบ. เป็นการรับรู้รายได้สะสม 3.97% ของทั้งโครงการ คาดแนวโน้มธุรกิจปี 67 ผลงานยังเติบโตได้ดี ปักหมุดรายได้โต 50% จากการฟื้นตัวของดีมานด์งานซ่อมเรือสถานการณ์ดีขึ้นหลังเปิดประเทศเต็มที่ ในขณะที่งานต่อเรือ ครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ รอลุ้นประมูลงานโครงการใหญ่ของภาครัฐ มูลค่ากว่า 1,000 ลบ.
นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่า ผลประกอบการในงวดไตรมาส 1 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 6.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.15 ล้านบาท หรือ 50.47% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 โดยมีรายได้รวม 170.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.56 ล้านบาท หรือ 17.58% โดยมีรายได้รวม 145.37 ล้านบาท เป็นรายได้มาจากงานซ่อมเรือ 122.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.08 ล้านบาท หรือ 0.07% โดยในไตรมาสแรกปีนี้ทั้งสำนักงานใหญ่และสาขาสุราษฎร์ธานี มีรายได้จากการซ่อมเรือกับลูกค้าเรือเอกชนเพิ่มขึ้น ถึงแม้งานซ่อมเรือของภาคราชการจะลดลงเล็กน้อย
ขณะที่มีรายได้จากงานต่อเรือ 30.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.09 ล้านบาท หรือ 213.03% ซึ่งมีการรับรู้รายได้โครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ จำนวน 30.99 ล้านบาท
และมีรายได้จากการจัดหาเรือ 1.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท หรือ 100% เป็นรายได้จากการขายเรือโพลีเอทิลีน ให้กับ อบจ.ลำพูน ซึ่งเป็นรายได้ของบริษัท อีโค มารีน จำกัด (บริษัทย่อย)
“บริษัทมีอัตรากำไร 42.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.40% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ซึ่งเกิดจากการจัดหารายได้ทั้งงานซ่อมทำและงานต่อเรือที่เพิ่มมากขึ้น แม้ต้นทุนในการรับจ้างจะเพิ่มสูงขึ้นแต่บริษัทก็สามารถควบคุมให้เป็นไปตามงบประมาณ โดยไม่กระทบกับคุณภาพและสามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา” นายสุรเดช กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจปีนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้เติบโตที่ 50% จากปีก่อน เนื่องจากการประเมินทิศทางธุรกิจต่อเรือ ซ่อมเรือ ดีมานด์ในตลาดสูง จากการขยายตัวของธุรกิจขนส่ง และท่องเที่ยว มีแนวโน้มเติบโตที่ดี รวมทั้งยังมี Backlog โครงการต่อเรือในมืออีกราว 881 ล้านบาท ในขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2567 นี้ บริษัทรอลุ้นประมูลงานโครงการใหญ่ของภาครัฐ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
5701