นายณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท ทีซีซีแลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เจริญกรุงนั้น บริษัทฯ วางแผนพัฒนาโครงการส่วนต่อขยายทั้งในส่วนของโรงแรมบนเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ และส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าบนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ โดยจะใช้งบประมาณในการพัฒนาทั้ง 2 ส่วนประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2563 ด้านการขยายโครงการไปยังต่างจังหวัดนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวางแผน ออกแบบ และพัฒนาโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เชียงใหม่และโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ พัทยา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในอีก 3-4 ปีข้างหน้านับจากนี้ โดยจะใช้งบในการพัฒนาประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อโครงการ ด้านรูปแบบจะยังคงเน้นความเป็น ‘ไลฟ์สไตล์ แอนด์ เฟสติวัล มาร์เก็ต (Lifestyle and Festival market)’ ซึ่งจะประยุกต์ให้เข้ากับประวัติศาสตร์ของแต่ละพื้นที่อย่างลงตัว โดยปัจจุบันได้เริ่มนำเสนอพื้นที่ในโครงการส่วนต่อขยายให้แก่เหล่ากลุ่มผู้เช่าแบรนด์ดัง อาทิ กลุ่มโชว์และกลุ่มเครื่องเล่น, กลุ่มผู้ประกอบการที่มีโรงงานผลิตที่เป็นกลุ่มสินค้าที่นักท่องเที่ยวต้องการ ซึ่งทั้งโครงการเชียงใหม่และพัทยาจะเจาะไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยซึ่งมีสัดส่วน 80% และที่เหลืออีก 20% คือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่ภายในจังหวัดนั้นๆ

     “ในโอกาสฉลองครบรอบ 5 ปีของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เจริญกรุง บริษัทฯ จึงได้ทุ่มงบประมาณกว่า 150 ล้านเพื่อเนรมิตไฮไลท์การท่องเที่ยวริมน้ำแห่งใหม่ ที่กำลังจะกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ล่าสุดของประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ต้นปี 2561 เป็นต้นไป”นายณภัทร เจริญกุล กล่าวเสริม

        ด้านการพัฒนาศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์ 'เกตเวย์'นั้น นายณภัทร อธิบายเพิ่มเติมว่า ในปี 2561 บริษัทฯ จะทำการเปิดตัวศูนย์การค้าเกตเวย์ บางซื่อมูลค่า 2,500 ล้านบาทอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันมีแบรนด์หลักชั้นนำดำเนินการเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่หมดแล้วโดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 40% จากพื้นที่โดยรวม 40,000 ตารางเมตร และกำลังอยู่ระหว่างการขายพื้นที่ให้แก่ผู้เช่ารายย่อยซึ่งคาดว่าจะสามารถปล่อยเช่าได้หมดภายในกลางปี 2561 นอกจากนี้ ยังจะดำเนินการเปิดตัวศูนย์การค้าเกตเวย์ในย่านฝั่งธนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งภายใต้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท โดยมีพื้นที่ปล่อยเช่ากว่า 33,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนในย่านดังกล่าวที่มีภาพรวมความต้องการในแบบ one stop service ใกล้เคียงกับย่านเอกมัยและบางซื่อ

      “อีกหนึ่ง ความสำเร็จของบริษัทฯ ก็คือศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ที่ปัจจุบันมีจำนวนทราฟฟิคเพิ่มสูงถึง 60,000 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100% จากช่วงก่อนปรับโฉม สืบเนื่องจากการปรับพื้นที่ทั้งภายในและบริเวณรอบอาคารศูนย์การค้าฯ ให้เป็นทางเลือกใหม่ที่มีศักยภาพสูงกลางสยามสแควร์ เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ท่ามกลางกระแสตอบรับจากแบรนด์ชั้นนำที่หมุนเวียนเข้ามาใช้พื้นที่จัดกิจกรรมจำนวนมาก โดยพื้นที่ที่ปรับเพิ่มประกอบด้วย ประกอบด้วย พื้นที่โถงบริเวณชั้น 4 หรือ Co-Here Space พื้นที่จัดกิจกรรม มีเนื้อที่รวม 250 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการปรับพื้นที่กว่า 1 ล้านบาท รองรับได้ประมาณ 120 – 150 คน และพื้นที่จัดกิจกรรมการตลาดรอบอาคารศูนย์การค้าฯ “Co-On ground” บริเวณสยามสแควร์ซอย 3 และซอย 4 ซึ่งพร้อมรองรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีเนื้อที่รวม 146 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการปรับพื้นที่ราว 2 ล้านบาท”นายณภัทร กล่าวเสริม

       สำหรับ ศูนย์การค้าพันธุทิพย์นั้น นายณภัทร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ จะเน้นการต่อยอดความแข็งแกร่งใน 3 มิติ ประกอบด้วย ด้านเกมมิ่ง, ด้านโซลูชัน และด้านไลฟ์สไตล์ไอที โดยได้ดำเนินการปรับโฉมพร้อมเปิดตัวไปแล้ว 2 สาขาคือ ประตูน้ำและเชียงใหม่ ส่วนสาขางามวงศ์วานและบางกะปิอยู่ระหว่างการปรับโฉมและกำลังจะนำเกมมิ่งเข้าไปเสริมความแข็งแกร่งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เนื่องจากในย่านดังกล่าวไม่มีศูนย์การค้าที่สามารถเติมเต็มในด้านดังกล่าวเลย

      “ประมาณไตรมาส 1 ปี 2561 บริษัทฯ จะเปิดตัวศูนย์การค้าแบรนด์ใหม่ ‘อเวนิว (Avenue)’ โดยสาขาแรกจะพัฒนาในย่านซอยลาซาล ที่มีทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร และบริการที่เข้าถึงได้ง่าย โดยหนึ่งไฮไลท์ของศูนย์ฯ คือการเปิดตัวร้านยูนิโคล่ โรดไซท์ (Uniqlo Road Site) แห่งแรกๆ ในไทย และวางแผนจะขยายการพัฒนาศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์อเวนิวอย่างต่อเนื่องไปตลอด 3 ปีนับจากนี้” นายณภัทร กล่าว

       ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทฯ ได้มีการยกระดับโครงการตลาดนัดตะวันนาบางกะปิและเปลี่ยนแบรนด์ให้กลายเป็น ‘ตะวันนา มาร์เก็ต’ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นตลาดชุมชนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง สร้างมาตรฐานการบริการใหม่ และเป็นตลาดชุมชนที่มีแบรนด์หลักชั้นนำเช่นเดียวกับในศูนย์การค้าหรือคอมมิวนิตี้มอลล์ อาทิ ซุปเปอร์มาร์เก็ต, แฟชั่นเสื้อผ้ารายใหญ่, โรงภาพยนตร์, มีศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่ เป็นต้น โดยบริษัทฯ จะดำเนินการพัฒนาโครงการตะวันนา มาร์เก็ตพร้อมกัน 3 ทำเล ประกอบด้วย ย่านบางพลี บนที่ดิน 50 ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท, ย่านพระราม 2 บนที่ดิน 35 ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท และย่านฝั่งธน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดิน 10 ไร่ ใช้เงินลงทุนกว่า 2,000ล้านบาท

       “การลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาทของ ทีซีซีแลนด์ แอสเสท เวิรด์ ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างมิติใหม่ให้แก่วงการธุรกิจรีเทลในประเทศไทย  ไม่ว่าจะเป็นโมเดลของตลาดชุมชนที่ผสานความลงตัวระหว่างผู้เช่ารายใหญ่และผู้เช่ารายย่อย จะสามารถดึงดูดความสนใจของคนได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการเติบโตในระยะยาว การที่บริษัทฯ พัฒนาแพลตฟอร์มศูนย์การค้าที่หลากหลายแบรนด์ขึ้นนั้น เกิดจากการเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันที่ต้องการแสวงหาความแตกต่าง ไม่จำเจ แต่ต้องตอบโจทย์ความต้องการได้โดยตรง จึงทำให้เกิด segmentation marketing ที่เน้นทำตลาดแบบเจาะกลุ่ม และเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน จะยิ่งทำให้สามารถกำหนดทิศทางธุรกิจได้เฉียบคมยิ่งขึ้น และทุกครั้งที่เรามีที่ดินที่พร้อมจะพัฒนา บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่า เราเป็น งThe Most Diversify Developer’ เนื่องจากเราสามารถเลือกแบรนด์ที่เหมาะสมเข้าไปใส่ได้ทันทีและปรับให้ตรงความต้องการของคนในย่านดังกล่าวให้ดีและเหมาะสมที่สุด”นายณภัทรกล่าวสรุป

TCC Land Asset World invests 20 billion baht, popping new shopping mall and other projects under a 3-year roadmap.

Mr. Napat Charoenkul, Managing Director of Retail Group, TCC Land Asset World Co., Ltd., revealed a plan for Asiatique The Riverfront Charoenkrung to create new 2 extensions for a hotel on the area of 15 rais and for a shopping center on an area of ​​about 20 rais. The estimated budget for both projects is 6 billion baht. Currently, the company is working on the design which is expected to be completed by the end of 2020. Also, to reach out to consumers in other provinces, the company is now planning, designing, and developing Asiatique The Riverfront Chiangmai and Asiatique The Riverfront Pattaya, and will be ready to launch within the next 3-4 years from now. The development budget is about 3 billion baht per project. The theme will continue to be the 'Lifestyle and Festival Market' that perfectly fuses local history and lifestyles of people in each area with shopping experiences. At this stage, the company has begun offering leasing spaces to brand tenants such as Performance business, theme park operators, and souvenir manufacturers who have their own production facilities. The Asiatique branches both in Chiang Mai and Pattaya will primarily target customer, 80% of which are International tourists and the remaining 20% ​​being Thai tourists within the provinces.

“On the occasion of the 5th anniversary of Asiatique The Riverfront Charoen Krung, the company has invested over 150 million baht to create a new waterfront highlight which is surely going to become the talk of the town of Thailand. It is expected to be available to tourists during the early 2018,” added Mr. Napat Charoenkul

Regarding the development of the shopping center under the brand ‘Gateway’, Mr. Napat further explained that in 2018, the company would officially launch Gateway Mall Bangsue, which is worth 2.5 billion baht. Even during the construction period, leading brands have already leased all large space lots, covering over 40% of the total area of ​​40,000 square meters, and the remaining lots are currently being sold to smaller tenants. All of the lots are expected to be fully leased out by the middle

of 2018. In addition, another Gateway mall, with the budget of over 2 billion baht and leasing area of more than 33,000 square meters, will also be launched in the Thonburi zone to accommodate the expansion of the community in that area, whose demand for a one stop service shopping center is as high as that of communities in Ekamai and Bang Sue.

“Another success of the company is the Center Point of Siam Square shopping mall, where the number of traffic is increasing to 60,000 people per day or more than 100% from the pre-makeover period. The space refurbishment has been completed both inside and around the building of the shopping center in order to offer another choice of shopping places with high potential in the heart of Siam Square. The shopping mall has made an impressive performance to support the need for spaces for marketing activities, resulting in leading brands taking turn to use the space for many activities. The upgraded area of the shopping mall consists of the 4th floor area or Co-Here Space with the area of ​​250 square meters. It was renovated with the budget of more than 1 million baht and can accommodate 120-150 persons. Another newly created activity space is the “Co-On Ground” shopping complex on Siam Square Soi 3 and Soi 4. The space is perfect for product launching events and other activities that meet the needs of new generation lifestyle. With a total area of ​​146 square meters, the renovation budget is about 2 million baht," added Mr. Napat.

For Pantip Plaza, Mr. Napat added that the company will focus on strengthening the three business dimensions: gaming, solutions, and IT lifestyle. The two renovated branches of Pantip are Pratunam and Chiang Mai which were launched recently. The Ngamwongwan and Bangkapi branches are undergoing a renovation and will be bringing in gaming to strengthen their selling point and meet the needs of customers because there are still no shopping center in the area that can fill in this gap at all.

"Around the 1st quarter of 2018, the company will launch a new shopping mall brand called 'Avenue'. The first branch will be established in Soi Lasalle, and will feature a supermarket, restaurants, and easy access service. One highlight of the center is the first launch of Uniqlo Road Site in Thailand. The company also plans to continually expand the development of the shopping complex under the Avenue brand for the next three years from now," said Mr. Napat. 

Recently, the company has upgraded the Tawanna Bangkapi flea market and changed the brand name into 'Tawanna Market' to develop it into a truly community-based marketplace, creating new service standards. It is a community market with major brands as well as in shopping centers or community malls, such as supermarkets, major fashion outlets, movie theaters, large repair centers, etc. The company will develop 3 Tawanna Market projects simultaneously in Bang Phli area on a 50-rai area with 600 million baht investment, in Rama 2 on a 35-rai area with 900 million baht budget, and in Thonburi on the Chao Phraya River covering 10 rais of with more than 2 billion baht budget.

“This investment of over 20 billion baht on these mega projects by TCC Asset World will open up a new dimension in the retail business in Thailand, such as a community market model that ideally fits for both big and small tenants. It is believed to be able to attract people's attention continuously to achieve long-term growth. The reason the company develops a variety of shopping center platforms is to fulfil the needs of today's customers who want to seek differences that still directly address their demands. This phenomenal change in consumer behavior results in segmentation marketing. However, a clear goal will enable us to a sharp decision and straightforward business direction. And every time our company has a piece of land ready to be developed, we can make sure that it will be successful since we are confident in our strong point as "The Most Diversified Developer." We can always choose the right brands to fit in our space and make adjustments to best satisfy the needs of the people in the area,” concluded Mr. Napat