หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

AQสมชาย ควจตรสวรรณ


AQ แจง Q1/60 ขาดทุนลดจาก Q1/59 ยอดขายอสังหาฯหดแต่ค่าใช้จ่าย-ตั้งสำรองต่ำลง,ยันเร่งส่งงบ Q2/60

     บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ) เปิดเผยผลประกอบการ ไตรมาส 1/60 ขาดทุนสุทธิ 61.96 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.0049 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 95.47 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.0075 บาท

     นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ ประธานกรรมการ AQ ระบุว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในไตรมาสแรกปีนี้ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 155.07 ล้านบาท คิดเป็น 74.11% เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมีผลกระทบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์และบริษัทชะลอการลงทุน

      ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 23.20 ล้านบาท หรือ 73.47% เนื่องจากบริษัทชะลอการลงทุนเปิดโครงการใหม่และมีการพิจารณาโฆษณาในสื่อที่ตรงเป้าหมายมากที่สุด นอกจากนี้มีการการตั้งสำรองค่าความเสียหายในคดีลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 51.04 ล้านบาท

      ส่วนประเด็นที่ผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกตุต่อคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในเรื่องการดำเนินการต่อเนื่อง AQ กับความสามารถในการชำระหนี้ธนาคารกรุงไทย (KTB) ความสามารถในการขายที่ดินหลักประกันให้ได้ราคาสุทธิตามที่ AQ ประมาณการไว้ ที่ผู้สอบบัญชีระบุว่า ปัจจัยเหล่านี้ยังมีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญ ซึ่งอาจให้เกิดข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องนั้น

      นายสมชาย กล่าวว่า ผู้สอบบัญชีระบุชัดเจนว่า งบการเงินไตรมาส 1/60 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.60 จัดทำขึ้นตามสมมติฐานว่า AQ จะดำเนินงานได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผู้สอบบัญชียังได้บันทึกความเห็นในงบการเงินด้วยว่าเมื่อวันที่ 17 ส.ค.60 AQ ทำหนังสือถึง KTB โดยได้สรุปข้อตกลงร่วมกัน 3 ประการได้แก่ 1.บริษัทจะชำระค่าเสียหายบางส่วนตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแก่ธนาคารจำนวน 1,635,735,380 บาท ซึ่งได้ชำระเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 ส.ค.60

       2.ธนาคารจะดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลฎีกาต่อทรัพย์ทั้งหมดอันเป็นมูลเหตุแห่งความเสียหายต่อธนาคาร โดยเงินที่ได้จากการบังคับคดี จะนำไปชำระค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาลฎีกา โดยจะยังไม่ดำเนินคดีกับบริษัท และ 3.หากการดำเนินการบังคับคดีกับสินทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดได้เงินไม่ครบจำนวนค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาลฎีกา บริษัทจะหาเงินชำระค่าเสียหายต่อธนาคารต่อไป

        นายสมชาย กล่าวว่า ในแง่ของธุรกิจปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหลายโครงการที่มีทั้งดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการดำเนินการ และมีอีกหลายโครงการที่จะลงทุนในอนาคต

       ส่วนงบการเงินไตรมาส 2/60 จะส่งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทันทีเมื่อผู้ตรวจสอบบัญชีให้การรับรองงบการเงิน และคาดว่าจะทำให้หุ้น AQ กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

       ปัจจุบัน AQ เป็นเจ้าโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และ โรงแรม ได้แก่ AQ Shadi ชลบุรี-บายพาส มูลค่า 1,003 ล้านบาท AQ Shadi รังสิต-พหลโยธิน มูลค่า 397 ล้านบาท กฤษดา แกรนด์ พาร์ค มูลค่า 391 ล้านบาท รังสิต บิซ พาร์ค มูลค่า 211 ล้านบาท โครงการ AQ Virar มูลค่า 306 ล้านบาท AQ Arbor มูลค่า 1,082 ล้านบาท โครงการ 15 Gates มูลค่า 334 ล้านบาท AQ Welle มูลค่า 640 ล้านบาท โครงการ Garden มูลค่า 977 ล้านบาท AQ Estes คอนโดมิเนียม ถนนรัตนาธิเบศร์ มูลค่า 1,548 ล้านบาท และ โครงการ AQ Alix มูลค่า 228 ล้านบาท

      ส่วนโรงแรม ประกอบด้วย Shasa Samui มูลค่า 162 ล้านบาท Malibu Samui มูลค่า 58 ล้านบาท Flora Creek มูลค่า 516 ล้านบาท Alix Redident มูลค่า 255 ล้านบาท และ Phureesala ภูเก็ต มูลค่า 137 ล้านบาท

                        อินโฟเควสท์

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!