นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ให้สัมภาษณ์กับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ระบุ การเพิ่มทุนรองรับการแจกวอร์แรนต์ พร้อมงดจ่ายปันผลปีนี้ หวังลด Net Gearing เหลือ 60-80% จากปัจจุบัน 90% ยืนยันปีหน้ากลับมาจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 35% พร้อมปรับแผนเปิดโครงการใหม่ปีนี้เหลือ 27 โครงการ จากเดิม 29 โครงการ มูลค่าใกล้เคียงเดิมที่ 3.7 หมื่นล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้าที่ 2.45 พันล้านบาท ยอดขาย 2.7 หมื่นล้านบาท เหตุรับรู้รายได้จาก backlog ที่มี 3.97 หมื่นล้านบาท และการเปิดโครงการใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

      บริษัทประกาศเพิ่มทุนจำนวน 429.13 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ ( SPALI-W4) และ งดการจ่ายเงินปันผลงวดปี 60 เนื่องจาก หวังลดอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Net Gearing Ratio)เหลือ 60-80 % จากปัจจุบันเกือบ 90 % หวังทำให้ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง จากปัจจุบันที่คณะกรรมการบริษัท มองว่าอยู่ระดับสูงเกินไป หากมีโอกาสลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคต การลด Net Gearing Ratio จะทำให้บริษัทสามารถกู้เงินลงทุนได้มากขึ้น

     การที่บริษัทตัดสินใจดำเนินการในปีนี้ เพราะรายได้และยอดขายของบริษัทมีการเติบโตที่ดีตามเป้าหมาย จึงทำให้นักลงทุนไม่กังวลว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทไม่ดี โดยภายหลังจากนักลงทุนใช้สิทธิแปลง SPALI-W4 คาดว่าอัตราหนี้สินต่อทุน ( D/E)จะต่ำกว่า 1 เท่า จากปัจจุบันที่ 1.23 เท่า สำหรับปีหน้ายืนยันว่าจะกลับมาจ่ายเงินปันผล ในอัตราไม่ต่ำกว่า 35% แน่นอน

      "การเพิ่มทุนเพื่อแจกวอร์แรนต์และงดปันผลปีนี้ เป็นการพิจารณาของบอร์ดบริษัท ต้องการลด Net Gearing Ratio ให้ลงเหลือ 60-80 % จากปัจจุบันที่มองว่าอาจจะสูงไปหน่อยอยู่ที่เกือบ 90% ซึ่งจะทำให้บริษัทมีฐานะที่ดีอยู่ระดับเหมาะสม เก็บเงินสดไว้ลงทุนในปีนี้ เพราะหากอนาคตมีโอกาสลงทุนขนาดใหญ่ ก็จะสามารถกู้เงินเพื่อมาดำเนินโครงการได้ โดยปัจจุบันบริษัทมีวงเงินสินเชื่อโครงการกับแบงก์อยู่ 2 หมื่นล้านบาท ที่ยังไม่เบิกมาใช้ " นายไตรเตชะ กล่าว

     บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 2.45 หมื่นล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก ปัจจุบันมี backlog จำนวน 3.97 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ปีนี้ 1.36 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการเปิดโครงการใหม่ โดยยอดขายในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1/60 เนื่องจากเป็นไตรมาสที่ไม่มีการเปิดโครงการใหม่

     ปีนี้บริษัทได้ปรับลดแผนการเปิดโครงการใหม่เหลือ 27 โครงการ จากเดิม 29 โครงการ แต่มูลค่าใกล้เคียงเดิมที่ 3.7 หมื่นล้านบาท โดยเลื่อนอีก 2 โครงการไปเปิดในปีหน้า โดยครึ่งปีแรกเปิดโครงการใหม่แล้ว 8 โครงการ ที่เหลือเร่งเปิดในช่วงไตรมาส 3/60 เพราะเลี่ยงเปิดในไตรมาส 4/60 ที่จะมีพระราชพิธีสำคัญ

     ปีนี้บริษัทใช้เงินลงทุนรวม 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้างโครงการ 1.2 หมื่นล้านบาท และใช้ซื้อที่ดิน 8 พันล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนแล้ว 3-4 พันล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประมูลซื้อที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย คาดรู้ผลการยื่นประมูลเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งเงินที่จะใช้ซื้อที่ดินดังกล่าวอยู่ในงบการซื้อที่ดินปีนี้แล้ว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย