หมวดหมู่: อสังหาริมทรัพย์ฯ

1AERO ROOF


EPG ส่งผลิตภัณฑ์ AERO-ROOF ฉนวนยางกันความร้อนใต้หลังคา บุกตลาดวัสดุก่อสร้างเจาะกลุ่มผู้รับเหมา และสถาปนิกงานโครงการ ชูจุดเด่น ป้องกันความร้อน ไม่ลามไฟ ติดตั้งง่าย คาดกลุ่มธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน / เย็น ได้ประโยชน์ ครึ่งปีหลังโครงการรัฐหนุนดีมานด์เพิ่ม เอกชนเริ่มลงทุนใหม่

        รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท EPG ได้พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่มล่าสุดบริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด บริษัทย่อยของ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX ได้ส่งผลิตภัณฑ์นวัตกรรม “ฉนวนยางกันความร้อนใต้หลังคา (AERO-ROOF)” ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นคือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากยางสังเคราะห์ชนิดพิเศษ Ethylene Propylene Diene Monomer (EPDM) เคลือบด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ โดยนำมาใช้ติดตั้งใต้หลังคา ฝ้า หรือผนัง เพื่อป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ AERO-ROOF มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และเป็นวัสดุประเภท Thermosetting จึงไม่ลามไฟ และไม่หลอมเหลวเมื่อถูกความร้อนหรือเปลวไฟ นอกจากนี้ AERO-ROOF เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากกลิ่น ไม่เป็นฝุ่นผงหรือแตกหักง่าย จึงช่วยลดปัญหาเรื่องอาการแพ้ในผู้ใช้งานและไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพแก่ผู้อยู่อาศัย

       AERO-ROOF มีแผนขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ในช่วงแรกจะเร่งบุกตลาดในประเทศ โดยเจาะกลุ่มโครงการเอกชนและภาครัฐที่มีการลงทุนในโครงการต่างๆจำนวนมาก คาดว่ามูลค่างานภาครัฐจะขยายตัวได้ดี  ซึ่งทางบริษัทจะเน้นการทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าโครงการ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล คลังสินค้า และกลุ่มลูกค้าทั่วไป ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยต่อผู้อาศัยและความคุ้มค่าในการใช้งาน บริษัทได้เริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องกับให้กลุ่มผู้รับเหมา และสถาปนิก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้ร่วมออกบูธแนะนำสินค้า ในงานสถาปนิก 2017 ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด

        ด้านภาพรวมการดำเนินงานของ EPG ในปี 2560/61 ตั้งเป้ารายได้โตกว่า 10% โดยมุ่งขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น AEROFLEX ยังคงเน้นทำการตลาดในกลุ่มทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ญี่ปุ่น และจีน ส่วนในสหรัฐอเมริกาได้เตรียมลงทุนเครื่องในจักร Hi-speed อีก 100 ล้านบาท ตลาดในประเทศเน้นขยายฐานลูกค้าประเภทลูกค้าโครงการ โดยจำหน่ายตรงให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ และ ผู้รับเหมาประเภทงานระบบ คาดว่าการสนับสนุนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ของรัฐบาล และการลงทุนของภาคเอกชน จะส่งผลให้ดีต่อกลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ของกลุ่มบริษัทได้ในระยะยาว รศ.ดร.เฉลียว กล่าว

      บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG: ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีธุรกิจหลักคือ ฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX ชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS และบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ EPP ทั้ง 3 ธุรกิจ ประสบความสำเร็จและเติบโตได้ด้วยนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ เป็นผู้นำทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ มีโรงงานรวมถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2560 EPG มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 34,440 ล้านบาท

EPG เปิดตัวสินค้าใหม่ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาหวังสร้างรายได้ปีนี้ 50 ลบ.,เล็งเปิดร้านขายสินค้าแบรนด์ TJM ในไทย

       นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา "AERO-ROOF" ที่มีความแตกต่างจากฉนวนกันความร้อนเดิมที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งฉนวนกันความร้อนของบริษัท สามารถกันไฟและสามารถกันความร้อนในประสิทธิภาพที่ดี โดยตั้งเป้าสร้างรายได้ในปีนี้ (ปี 60/61) ที่ 50 ล้านบาท เติบโตจากระดับ 10 ล้านบาทในปีก่อน

       พร้อมทั้งตั้งเป้ามีรายได้ 500 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า  หลังบริษัทจะเริ่มส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 100 รายของบริษัทภายในปีหน้า

       นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมนำสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์แบรนด์ TJM ที่เป็นสินค้าของบริษัทย่อยในประเทศออสเตรเลีย มาเปิดร้านประดับยนต์ สาขาแรกในประเทศไทยภายในปีนี้ด้วย

      ขณะที่อัตรากำไรสุทธิในปี 60/61 คาดว่าจะอยู่ที่ราว 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 15.38% แม้ค่าเงินบาทในปีนี้จะแข็งค่าขึ้น แต่บริษัทได้พยายามควบคุมต้นทุนในการส่งออกมากขึ้น ประกอบกับบริษัทมีการนำเข้าและส่งออกเป็นเงินดอลลาร์อยู่แล้วทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากอัตราแลกเปลี่ยน

      พร้อมกันนี้ ยังมั่นใจว่ารายได้ในปี 60/61 (เม.ย.60-มี.ค.61) เติบโตตามเป้าที่ 10-12% ทะลุ 10,000 ล้านบาท จากแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่จะได้รับผลดีราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น และการลงทุนภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะผลักดันให้ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ตามกำลังซื้อที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น

   อินโฟเควสท์

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!