เชื่อมั่นอุตฯเดือนพ.ค.ร่วง บาทแข็ง-ขาดเงินหมุนเวียนสอท.มึนส่งออกยานยนต์วูบ

    ไทยโพสต์ : ดัชนี ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน พ.ค.ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังเอกชนกังวลบาทแข็ง-เอสเอ็มอีขาดเงินทุนหมุนเวียน ส่วนส่งออกรถยนต์ยังหดตัว 9.5% ต่อเนื่อง ส.อ.ท.จ่อปรับเป้าต่ำกว่าคาด 1.2 ล้านคัน ฉุดยอดทั้งปีหลุดเป้า 2 ล้านคัน

     ศูนย์ฯ สิริกิติ์ * ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน พ.ค.ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังเอกชนกังวลบาทแข็ง-เอสเอ็มอีขาดเงินทุนหมุนเวียน ส่วนส่งออกรถยนต์ยังหดตัว 9.5% ต่อเนื่อง ส.อ.ท.จ่อปรับเป้าต่ำกว่าคาด 1.2 ล้านคัน ฉุดยอดทั้งปีหลุดเป้า 2 ล้านคัน

     นายเจน นำชัยศิริ ประ ธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน พ.ค.60 อยู่ที่ 85.5 ลดลงจากเดือน เม.ย. ที่อยู่ในระดับ 86.4 ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. ที่อยู่ในระดับ 86.5

      ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้กระทบต่อการบริหารต้นทุนของผู้ประกอบการส่งออก อีกทั้งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียน การขาด แคลนแรงงาน และต้นทุนด้านราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น

      ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 99.6 ลดลงจากเดือนก่อนอยู่ที่ 100.0 เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อภายในประเทศ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

      นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือน พ.ค.เพิ่ม 0.6% เทียบกับช่วงเดียว กันปีก่อน 0.6% อยู่ที่ 66,422 คัน และเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 5% ซึ่งเป็นผลจากเดือนนี้มีวันทำงานมากกว่า ส่วนในช่วง 5 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) มียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 12.4% อยู่ที่ 340,179 คันทั้งปีคาดว่าจะมียอดขาย 800,000 คัน

    "ยอดขายรถยนต์ในประ เทศที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค.2560 เป็นไปตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มขึ้น การส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการแนะนำรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (SUV) รุ่นใหม่ ส่งผลให้ภาพรวมยอดผลิตรถยนต์เดือนนี้เพิ่มขึ้น 0.65% อยู่ที่ 169,495 คัน เป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 17.32% อยู่ที่ 82,348  คัน" นายสุรพงษ์กล่าว

     นายสุรพงษ์กล่าวว่า ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนนี้ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 9.5% อยู่ที่ 90,092 คัน เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 ในทุกตลาด คิดเป็นมูลค่าส่งออกที่ลดลง 12.69% อยู่ที่ 48,014.47 ล้านบาท สอดคล้องกับยอดผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกลดลง 11.26% อยู่ที่ 87,147 คัน

     โดยช่วง 5 เดือนของปีนี้ ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปรวมอยู่ที่ 443,320 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.12% โดยเฉพาะตลาดที่ส่งออกลดลงมากที่สุดคือกลุ่มประเทศตะวันออก กลาง จากที่เคยมีสัดส่วนส่งออกมากที่สุด 25% ลดลงเหลือไม่ถึง 8% ของยอดส่งออกรถยนต์ คิดเป็นจำนวนรถยนต์ที่ลดลงประมาณ 200,00 คัน คาดว่าทั้งปีไม่น่าจะส่งออกได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1.2 ล้านคัน ซึ่งจะทำให้ยอดขายทั้งปีไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 2 ล้านคัน ดังนั้นในเร็วๆ นี้จะมีการหารือร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เกี่ยวกับภาวะตลาด ส่งออกรถยนต์ในเดือน มิ.ย.อีกครั้ง รวมถึงการปรับเป้าส่งออกใหม่.

ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ พ.ค.หดตัว 9.5% มาที่ 90,092 คัน ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11

      นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่าในเดือนพ.ค.60 การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 90,092 คัน ลดลง 9.5% จาก พ.ค.59 โดยเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 ในทุกตลาด คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 48,014.47 ล้านบาท ลดลง 12.69% จากพ.ค.59

      ขณะที่ยอดรวมในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.59 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 443,320 คัน ลดลง 9.12% จากช่วงเดียวกันของปี 59 คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 233,899.69 ล้านบาท ลดลง 10.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

      ทั้งนี้ จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือน พ.ค.60 มีทั้งสิ้น 169,495 คัน โดยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 82,348 คัน เพิ่มขึ้น 17.32% ส่วนการผลิตเพื่อส่งออก 87,147 คัน ลดลง 11.26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

       โดยในช่วงม.ค.-พ.ค.60 จำนวนการผลิตอยู่ที่ 775,523 คัน ลดลง 4.67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการผลิตเพื่อการส่งออกลดลง 10.66%

      ด้านนายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังประกาศปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฮบริดว่า น่าจะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะการเพิ่มยอดขายในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมารถไฮบริดมีราคาแพงทำให้ยังไม่เกิดแรงจูงใจผู้บริโภคให้เลือกซื้อ

     "เป็นแนวทางที่เหมาะสมแล้วเพราะรถไฮบริดไม่ต้องพึ่งพา Infrastructure ในเรื่องการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าหรือสถานีเติมเชื้อเพลิง เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าหรือใช้ไฮโดรเจน อีกทั้งที่ผ่านมารถไฮบริดมีราคาแพงทำให้มียอดขายน้อย" นายศุภรัตน์ กล่าว

ส.อ.ท.เล็งปรับเป้าส่งออกรถยนต์ปีนี้จากเดิมคาด 1.2 ล้านคัน หลังหดตัวต่อเนื่อง 11 เดือน

      นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในปีนี้อาจต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.2 ล้านคัน หลังจากช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.60) มียอดส่งออกลดลง 9.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะยอดส่งออกไปตลาดตะวันออกกลางที่ลดลงอย่างมากหลังได้ออกระเบียบเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเพื่อลดมลพิษ

     "ปีนี้คาดว่า จะมีการปรับเป้าส่งออกเพราะยอดส่งออกลดลงต่อเนื่องกันมา 11 เดือนแล้ว ซึ่งคงต้องรอดูตัวเลขเดือน มิ.ย.60 ก่อน" นายสุรพงษ์ กล่าว

               อินโฟเควสท์