ขสมก.ลุยประมูลเมล์ NGV ขสมก.เปิด TOR ห้าม'เบสท์ริน'ร่วม

    แนวหน้า : นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม และรักษาการ ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการคุณธรรมในร่างเอกสาร การจัดซื้อจัดจ้าง(TOR) แล้วและจะมีการประกาศบนเว็บไซต์จนถึงวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งหากมีข้อท้วงติงก็จะมีการ นำมาแก้ไขและประกาศบนหน้าเว็บไซต์ต่ออีก 3 วัน และคาดว่าจะเริ่มกระบวนการประกวดราคาได้ในช่วงปลายเดือน มิถุนายน-กรกฎาคมนี้ และจะได้รับมอบรถทั้งหมดในเดือน ตุลาคม 2560

      โดยร่าง TOR ทาง ขสมก.อาจจะมีการปรับเงื่อนไขเล็กน้อยในเรื่องการจ่ายเงิน โดยอาจมีการปรับให้ต้องส่งมอบรถให้ครบทั้งหมดก่อนที่จะมีการจ่ายเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงและประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น

      ส่วนรถเมล์ NGV เดิมของ เบสท์รินกรุ๊ป และมีการ ยกเลิกประมูลครั้งก่อนนั้น แม้จะมีใครหรือ ผู้สนใจรับซื้อต่อไปก็ไม่สามารถนำมาเข้าร่วมประมูลได้เนื่องจาก TOR กำหนดไว้ชัดเจนว่า ต้องเป็นรถใหม่เท่านั้น รวมถึงบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป ที่ทำผิดเงื่อนไขส่งมอบ และถูกยกเลิกสัญญาจัดซื้อ ก็จะถูกขึ้นบัญชีดำการเข้าร่วมประมูลครั้งนี้ด้วย

   ส่วน TOR ของโครงการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าอีกจำนวน 200 คันนั้น ทางคณะกรรมการ คุณธรรมเรื่องราคากลางที่ต้นทุนยังสูงเกินไปโดยเฉพาะราคาแบตเตอรี่ในระบบที่มีการปรับลดลงจาก 5 ล้านบาท เหลือเพียงประมาณ 1 ล้านบาท จึงได้นัดหารือร่วมกันอีกครั้งกับคณะกรรมการคุณธรรมในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ เพื่อหาข้อยุติ โดยจะมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเข้าร่วมหารือด้วยเพราะเป็นผู้จัดทำร่าง TOR

    นอกจากนี้ ได้มีการหารือร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เกี่ยวกับการจัดทำแผนฟื้นฟูให้ของ ขสมก. ได้มีข้อสรุปว่าจะให้ระยะเวลาในการกลับไปทบทวนแผนใหม่ทั้งหมด 2 สัปดาห์ เพื่อนำกลับมาเสนอให้พิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากแผนขณะนี้ มีความคลาดเคลื่อนจากการยกเลิกประมูลรถเมล์ NGV ครั้งก่อน

   โดยทาง ขสมก.วางแผนไว้ว่าตั้งแต่ปี 2560-2564 จะมีการนำรถใหม่เข้ามาให้บริการจำนวน 3,450 คัน และรถเก่าจำนวน 2,753 คัน ต้องถูกปลดระวางออกไปทำให้ในปี 2565 ขสมก.จะมีกำไรสุทธิจากการบริหารงาน เนื่องจากต้นทุนทางการบริหารงานลดลง ค่าเชื้อเพลิง และค่าซ่อมบำรุงที่ลดลง รวมถึง พนักงานเก็บค่าโดยสารบางส่วนก็จะต้องเข้าโครงการเกษียณก่อนกำหนด หรืออาจเข้าโครงการฝึกเป็นพนักงานขับรถต่อไป

     ในส่วนของโครงการระบบตั๋วร่วมภายใต้ งบประมาณ 2,800 ล้านบาท ขณะนี้แม้จะได้ตัว ผู้ชนะเข้าร่วมประมูลแล้ว แต่การลงนามสัญญาอาจต้องเลื่อนออกไปจากเดิมเดือนนี้เป็นเดือน มิถุนายน 2560 เนื่องจากร่างสัญญายังไม่ผ่าน การพิจารณาสำนักงานอัยการสูงสุด และทาง ฝ่ายบริหารของ ขสมก.ยังก็ยังไม่มีความชัดเจน เรื่องงบประมาณในการจัดซื้อครั้งนี้ว่าจะหามาจาก ส่วนใด โดยแผนทั้งหมดนี้จะมีการรายงานให้บอร์ด รับทราบในการประชุมวันที่ 31 พฤษภาคมนี้

ขสมก.ประมูลใหม่รถเมล์ NGV มิ.ย.-ก.ค.รับมอบครบ 489 คันใน 31 ต.ค.60,รถเมล์ไฟฟ้าสรุปสัปดาห์หน้า

     นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับคณะผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งได้แก่ องค์การต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) และกรมบัญชีกลาง ในโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) 489 คัน และรถโดยสารที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน 200 คันว่า TOR ของโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV มีความครบถ้วนไม่จำเป็นต้องปรับแก้แล้ว โดยคณะผู้สังเกตการณ์ฯ ขอเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นในส่วนของกระบวนการและวิธีการจัดหา เพื่อให้เป็นไปอย่างรอบคอบ และมีรูปธรรมต่อไป

     ขณะนี้ ขสมก.ได้นำร่าง TOR ดังกล่าวประกาศลงในเว็บไซต์เพื่อเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ซึ่งจะสิ้นสุดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 8 พ.ค.60 หากมีข้อท้วงติง ขสมก.จะทำการปรับปรุงและประกาศลงเว็บไซต์ครั้งที่ 2 อีก 3 วันก่อนจะสรุปเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก.ในวันที่ 31 พ.ค.60 และจัดการประมูลให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.หรือต้นเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งตามแผนของ ขสมก.กำหนดรับมอบรถเมล์ NGV ครบ 489 คันภายในวันที่ 31 ต.ค.60

      ส่วนโครงการจัดซื้อรถ EV จำนวน 200 คันนั้น คณะผู้สังเกตการณ์ฯ ขอให้ ขสมก.พิจารณาราคากลางอีกครั้ง โดยขอให้แยกรายการและอุปกรณ์ต่างๆ ให้ชัดเจน พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียในส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ และการซ่อมบำรุง วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่ง ขสมก. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ และคณะผู้สังเกตการณ์ฯ จะประชุมเพื่อหาข้อสรุปให้เป็นแนวทางเดียวกันอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค.นี้ โดยกำหนดการรับมอบรถ EV ล็อตแรก 50 คัน คือ ภายในเดือน ธ.ค.60

      นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ขสมก.อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนธุรกิจเพื่อฟื้นฟูกิจการ โดยมีแผนจัดซื้อรถใหม่และปลดระวางรถเก่า, ติดตั้งระบบ GPS, ติดตั้งระบบ E-Ticket , พัฒนาอู่ 2 แห่งเชิงพาณิชย์ คือ เขตเดินรถบางเขนและมีนบุรี ซึ่งหากทำได้ตามแผนเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อระบบการเงินและกิจการให้ดีขึ้น เพราะการเปลี่ยนรถใหม่จะทำให้ต้นทุนในการดำเนินงานลดลง ช่วยให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการดีขึ้น ใช้บุคลากรลดลง โดยปี 65 จะเสนอโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์ลี่รีไทร์) พนักงานเก็บค่าโดยสาร และจะมีโครงการส่งเสริมให้พนักงานเก็บค่าโดยสารไปเรียนขับรถ เพื่อปรับมาเป็นพนักงานขับรถ ซึ่งปัจจุบันขาดแคลนมาก

   สำหรับ แผนงานในช่วง 5 ปี (60-64) จะมีการจัดซื้อรถใหม่จำนวน 3,450 คัน ปลดระวางระเก่า 2,753 คัน แบ่งเป็นปี 60 จัดหารถใหม่จำนวน 689 คัน (รถ NGV 489 คัน รถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน), ปี 61 จัดหารถใหม่จำนวน 700  คัน ปลดระวางรถเก่า 501 คัน, ปี 62 จัดหารถใหม่จำนวน 600 คัน ปลดระวางรถเก่า 624 คัน, ปี 63 จัดหารถใหม่จำนวน 700  คัน ปลดระวางรถเก่า 699 คัน และปี 64 จัดหารถใหม่จำนวน 761 คัน ปลดระวางรถเก่า 852 คัน

      ปัจจุบัน ขสมก.มีกระแสเงินสดติดลบเฉลี่ย 30 กว่าล้านบาท/เดือน ในปี 59 ขาดทุนสุทธิ 3,000 กว่าล้านบาท มียอดขาดทุนสะสม 103,000 กว่าล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าว่าในปี 65 ขสมก.จะเริ่มมีกำไรสุทธิจากการบริหารงาน

    อินโฟเควสท์

เบสท์ริน ร้องนายกฯ ขอความเป็นธรรม-หาทางออก ขสมก.ยกเลิกสัญญารถเมล์ NGV

       บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด มอบหมายนายสันติ ปิยะทัต ทนายความในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทฯ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยกเลิกสัญญาซื้อรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(NGV) ที่ศูนย์บริการประชาชน บริเวณสำนักงานก.พ.

     นายสันติ กล่าวว่า ศาลปกครองมีคำสั่งให้ ขสมก.ตรวจรับรถเมล์ NGV แต่ ขสมก.กลับยกเลิกสัญญาทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหาย จึงมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้มีทางออกที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย แต่หากขสมก.ไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงการยกเลิกสัญญา จะมีการฟ้องร้องเพื่อคุ้มครองสัญญาต่อไป

     ทั้งนี้ ยืนยันว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามทีโออาร์ มีการประกอบที่ประเทศมาเลเซียอย่างถูกต้อง ส่วนการตรวจสอบแหล่งกำเนิดของรถอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเอกสารการยืนยันจากประเทศมาเลเซีย

เบสท์รินฯ จ่อฟ้องแพ่ง-อาญาเรียกค่าเสียหาย ขสมก.หลังถูกเลิกสัญญารถเมล์ NGV ไม่เป็นธรรม

     นายสันติ ปิยะทัต และ นายสุนทร ชูแก้ว ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ระบุว่า การที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยกเลิกสัญญาซื้อขายและจ้างซ่อมบำรุงรักษารถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) เลขที่ ร.50/2559 ลงวันที่ 30 ก.ย.59 กับบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป จำกัดฯ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายและไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต้องเสียโอกาสในการที่จะใช้บริการรถเมล์ NGV ใหม่ โดยทำให้เกิดความล่าช้าออกไปอีก

      "การยกเลิกสัญญาดังกล่าวเป็นการบอกเลิกสัญญาที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมต่อบริษัทฯ เนื่องจากเป็นการบอกเลิกสัญญาภายหลังจากที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ ขสมก.ดำเนินการตรวจรับรถเมล์ NGV และให้ปฏิบัติตามสัญญาฯ ต่อไป ทั้งยังได้เรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอาทิ คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.), กระทรวงคมนาคม, คณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ รวมถึง ขสมก.ให้หาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว และให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองที่ได้สั่งคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาอย่างเคร่งครัดด้วย"

     ทั้งนี้ หากทาง ขสมก. ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลดังกล่าว ทางบริษัทฯ คงต้องใช้สิทธิในการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา รวมทั้งเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดต่อไป

   อินโฟเควสท์