หมวดหมู่: หอการค้า

CBธนวรรธน พลวชย copy copy


ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค. 60 อยู่ที่ 76.8 เพิ่มขึ้นจาก ก.พ. 60 ที่อยู่ 75.8 ดีสุดในรอบ 24 เดือน

    นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. 60 อยู่ที่ 76.8 จากเดือนก.พ. 60 ที่อยู่ 75.8 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 และ เป็นระดับที่ดีที่สุดในรอบ 24 เดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 58 เนื่องจากการท่องเที่ยว และ การส่งออกปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมันและอ้อยส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยในหลายจังหวัดที่ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นเริ่มขยายตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่บวกับราคาข้าวที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ ประกอบกับ สถานการณ์ไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ และ Brexit

 หรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเดือนมี.ค. 60 อยู่ที่ 65.1 จากเดือนก.พ. 60 ที่ 64.3 โดยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และ เป็นระดับดีที่สุดในรอบ 15 เดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค.59

  สำหรับ การบริโภคของภาคประชาชนจะฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับในช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในช่วงปลายไตรมาส 2/60 หากรัฐอัดฉีดเม็ดเงินงบประมาณกลางปีกว่า 1 แสนล้านบาทผ่านโครงการพัฒนา 18 กลุ่มจังหวัดในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งเป็นแผนเดิมที่รัฐบาลวางไว้

  อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย เพราะมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันและในอนาคต เพราะเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงของการเริ่มฟื้นตัว และ การฟื้นตัวยังไม่ได้กระจายตัวไปยังทุกภาคอุตสาหกรรมหรือทุกพื้นที่ โดยการฟื้นตัวของการบริโภคน่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังถ้าสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลง และ การส่งออกฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ ตลอดจนราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ ที่สำคัญรัฐบาลใช้งบประมาณกลางปีกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆได้อย่าางรวดเร็วและเป็นรูปธรรมในไตรมาส 2/60

  ม.หอการค้าไทย ยังคงเป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 60 ที่ 3.6% โดยไตรมาส 1/60 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.2% ไตรมาส 2/60 ขยายตัวได้ 3.4% ทำให้ครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 3.3% ส่วนไตรมาส 3/60 ขยายตัวได้ 3.7% และ ไตรมาส 4/60 ขยายตัว 4% โดยปัจจัยหนุนจะมาจากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.5%

  ส่วนการท่องเที่ยวปีนี้ยังเป็นพระเอกให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ตามคาด ซึ่งประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้จะสูงถึง 34.5-35.5 ล้านคน ประกอบกับ การส่งออกปีนี้ยังคงประมาณเดิมโดยคาดขยายตัว 2-3% แต่มีโอกาสที่การส่งออกจะขยายตัวเกิน 3% ได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวแตะ 4%

  "การที่เรามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย เพราะนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเห็นว่าเราเดินตามโรดแมพที่เคยประกาศไว้ ซึ่งอย่างเร็วการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ในปี 61 ส่งผลดีต่อตลาดทุน ตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้บ้านเรา"นายธนวรรธน์ กล่าว

  ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-17 เม.ย. 60 พบว่าจะมีเงินสะพัด 127,693.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่ 124,542.66 ล้านบาท หรือ เติบโต 2.53% ซึ่งนับว่าสูงสุดในรอบ 12 ปี โดยบรรยากาศปีนี้ยังคงคึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มเห็นประชาชนเดินทางไปต่างจังหวัดมากขึ้น โดยส่งผลให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ซึ่งกิจกรรมที่นิยมทำในสงกรานต์ยังซื้อของสูงสุดที่ 86% โดยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับ ทอง สูงถึง 18,491.36 ล้านบาทในปีนี้ จากปี 59 ที่ 7,625.93 ล้านบาท

โพลล์หอการค้าฯ คาดช่วงสงกรานต์ปีนี้เงินสะพัด 1.27 แสนลบ.โต 2.53% ส่วนใหญ่เที่ยวในปท.

       มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 60 คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดราว 1.27 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.53% โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 71.6% ระบุว่ามีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวในจังหวัดที่อาศัยอยู่, ท่องเที่ยวจังหวัดอื่นในประเทศ และท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างอีก 23.9% ระบุว่าจะพักผ่อนอยู่บ้าน และอีก 4.6% ระบุว่า ไม่มีการวางแผนไปท่องเที่ยว

      กลุ่มตัวอย่างที่วางแผนไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ พบว่าส่วนใหญ่ 90.1% วางแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 3,951 บาท/คน ส่วนอีก 9.9% ที่วางแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 75,333 บาท/คน ส่วนแผนการใช้จ่ายด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการท่องเที่ยวนั้น พบว่าอันดับ 1 จะเป็นการเดินทางไปรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ และไปเยี่ยมญาติ อันดับ 2 ไปทำบุญ อันดับ 3 ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค อันดับ 4 ซื้อกระเช้า และอันดับ 5 ไปเล่นน้ำสงกรานต์

     จากการสำรวจบรรยากาศสงกรานต์ในปี 60 เมื่อเทียบกับปี 59 โดยภาพรวมจะเป็นอย่างไรนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 53.1% เชื่อว่าบรรยากาศจะสนุกสนานเหมือนเดิม รองลงมา 18.6% ตอบว่าจะสนุกสนานมากกว่า และอีก 18.2% ตอบว่าสนุกสนานน้อยกว่า ในขณะที่ 10.1% ตอบว่าไม่สนุกสนานเหมือนเดิม โดยความกังวลที่พบในช่วงสงกรานต์ปีนี้ 5 อันดับแรกคือ อันดับ 1 อากาศร้อน อันดับ 2 ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อันดับ 3 การจราจรติดขัด อันดับ 4 อุบัติเหตุและความปลอดภัยในการเดินทาง อันดับ 5 ปัญหาการโจรกรรมเมื่อไม่อยู่บ้าน

      สำหรับ พรที่ต้องการขอนั้น พบว่าหากเป็นพรที่ขอให้กับประเทศไทย ส่วนใหญ่กลุ่มตัวอย่างจะขอให้พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และพระราชินีในรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงและมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน, ขอให้ประเทศไทยมีผู้นำที่ดีมาบริหารประเทศ และขอให้ประเทศไทยหมดจากปัญหาอาชญากรรม แต่หากเป็นการขอพรให้ตัวเองนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะขอให้ร่ำรวย มีเงินมีทองใช้, ขอให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน, ขอให้พบเจอแต่สิ่งที่ดี และขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง

     ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,197 ตัวอย่าง ดำเนินการสำรวจตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. – 2 เม.ย.60

  อินโฟเควสท์

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!