หมวดหมู่: สภาอุตสาหกรรม

FTI


ส.อ.ท.คาด ศก.ปี 60 ยังโตได้ดีกว่าปีนี้ ตามการลงทุนภาครัฐฯ -ท่องเที่ยว -รายได้เกษตรและแผนกระตุ้นศก.เป็นสำคัญ

      สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผย 'ข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจ -อุตสาหกรรมไทยปี 2559 และแนวโน้มปี 2560’ ผ่านเอกสารเผยแพร่ โดยประเมินว่า ศก.ปี 60 ยังโตได้ดีกว่าปีนี้ ตามการลงทุนภาครัฐฯ-ท่องเที่ยว-รายได้เกษตรและแผนกระตุ้นศก.เป็นสำคัญ แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งส่งออกชะลอ-เฟดขึ้นดบ. -Brexit และเงินฝืดในญี่ปุ่น โดยมีรายละเอียดดังนี้

       ในปี 2560 คาดว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะมีการเติบโตได้ดีกว่าในปี 2559 จากแรงขับเคลื่อนหลักของการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ,จำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง, ภาคการบริโภคที่ได้รับอานิสงค์จากรายได้เกษตรที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่างๆ ของภาครัฐ, การลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มว่าจะปรับดีขึ้นตามความชัดเจนของการลงทุนภาครัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ, ภาคการส่งออกที่อาจจะกลับมาขยายตัวได้ในรอบ 5 ปี จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีความแข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ         

      การลงทุนตามแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2559 (Action Plan) 20 โครงการ วงเงินรวม 1,410,763.35 ล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเม็ดเงินลงทุนจะลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้นในปี 2560 โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โครงการรถไฟฟ้าในเขตเมืองและปริมณฑล 

       โครงการภายใต้แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (พ.ศ. 2560-2564) ที่มีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการในปี 2560 จำนวน 48 โครงการ วงเงินรวม 6,992.67 ล้านบาท 

       ภาคการท่องเที่ยว แม้ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 จะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญ  แต่ประเมินว่าภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ซึ่ง ททท. ตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2560 ไว้ที่ 2.5 ล้านล้านบาท 

     การบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับอานิสงค์จากรายได้เกษตรกรที่ฟื้นตัวขึ้น ตามแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับในปี 2560 เป็นปีที่โครงการรถยนต์คันแรกครบกำหนดถือครอง 5 ปี ซึ่งผู้บริโภคเคยมีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถก็สามารถจะนำค่าใช้จ่ายที่เคยใช้สำหรับผ่อนรถมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อการอุปโภคบริโภคด้านอื่นๆ ได้มากขึ้น

     มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ออกมาเป็นระยะๆ เช่น มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวช่วงปลายปี มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความต่อเนื่องของการบริโภคจนถึงต้นปี 2560 อีกทั้ง ในปีหน้าภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะลดลงตามการปรับปรุงโครงสร้างภาษีใหม่

      ภาคการส่งออกในปี 2560 มีความเป็นไปได้ว่าจะขยายตัวได้ดีกว่าในปี 2559 ตามภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีทิศทางแข็งแกร่งมากขึ้นตามลำดับ ประกอบกับเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักอย่างอาเซียนและ CLMV ที่ยังมีทิศทางการขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี ซึ่งการส่งออกอาจจะกลับมาขยายตัวได้ในรอบ 5 ปี โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2560 ว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.4 สูงกว่าที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2559 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.1

    เศรษฐกิจไทยยังอาจต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง ของการส่งออกไทยอาจได้รับผลกระทบจาก แนวโน้มการค้าและการลงทุนของโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนจากการดำเนินนโยบายด้านการค้าและการลงทุนของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีคนใหม่ ที่มีแนวโน้มกีดกันการค้า อย่างการขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบทางอ้อมมาสู่ภาคการส่งออกของไทยที่มีสัดส่วนการส่งออกไปจีนสูงถึงร้อยละ 10.6 โดยเฉพาะในสินค้าวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบ รวมถึง ความเปราะบางของการฟื้นตัวในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่าง ยุโรป ญี่ปุ่น หรือแม้จีนเองที่เศรษฐกิจชะลอตัวจากการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอยู่ก่อนแล้ว

   ความผันผวนของตลาดเงิน ตลาดทุนโลก จากความแตกต่างกันของนโยบายเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา มีความเป็นไปได้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากการจ้างงานมีทิศทางที่ดีและการขยายตัวของเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ สหภาพยุโรป ยังมีความไม่แน่นอนจากการเจรจา Brexit ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่าเป้าหมาย จึงยังคงมีการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย (QE) อยู่ และญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่อง จึงมีการใช้นโยบายผ่อนคลายทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!