กกร.ประเมินจีดีพีปี 59 ขยายตัว 3-3.5% หลังได้มาตรการรัฐหนุน ส่วนปี 58 โตตามเป้า 3% ส่วนส่งออกปี 59 คาดขยายตัว 2% ได้ตลาดอาเซียนทดแทนตลาดจีนที่หดตัว ขณะที่ปี 58 ติดลบ 5% เผย ศก.เดือน พ.ย. 58 ฟื้นตัว จากการใช้จ่ายภาครัฐ-เอกชน แม้ส่งออกหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11

 นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ประเมินจีดีพีปี 59 จะขยายตัวได้ 3-3.5% โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการขยายวงเงินสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอีอีก 50,000 ล้านบาท การขยายระยะเวลาในการดำเนินกองทุนหมู่บ้าน และล่าสุดมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา

 ส่วนจีดีพีปี 2558 ขยายตัวตามเป้าหมายที่คาดไว้ 3%

 สำหรับการส่งออกปีนี้ กกร. ประเมินว่าจะขยายตัว 2% จากปี 2558 ติดลบ 5% โดยปัจจัยเสี่ยง เป็นเรื่องเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ประกอบกับปัญหาภัยแล้งส่งผลให้ราคาพืชผลตกต่ำ อย่างไรก็ตาม การส่งออกในปีนี้จะได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ถือว่ามีการขยายตัวได้ดี

 อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจเดือนพ.ย. 58 ภาพรวมยังเป็นลักษณะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมาจากเศรษฐกิจในประเทศปรับตัวดีขึ้นผ่านการใช้จ่ายภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชน แม้จะเจอแรงกดดันจากการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11

  โดยการใช้จ่ายภาครัฐซึ่งเป็นเดือนที่สองของปีงบประมาณ 2559 สามารถเบิกจ่ายได้ดี ทั้งงบประจำและงบลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องหลังเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัว 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มาจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก

  สำหรับ การบริโภคภาคเอกชนมีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งการใช้จ่ายหมวดสินค้าไม่คงทนตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเนื่อง และสินค้าคงทนอย่างรถยนต์ที่มีการเร่งซื้อก่อนจะมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตช่วงต้นปีนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นแม้จะยังอ่อนแออยู่ ด้วยการเร่งซื้อรถยนต์และลงทุนในหมวดสื่อสารเพื่อรองรับโครงข่าย 4G

  ขณะที่ภาคการส่งออกเดือนพ.ย. หดตัวต่อเนื่อง เป็นในอัตราที่ชะลอตัว 7.4% ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยด้านราคาและปริมาณ มีเพียงตลาดฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนามที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้ยอดส่งออก 11 เดือนแรกปี 2558 หดตัว 5.5% แต่ก็ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย